รีวิว ซื้อรถมือสอง แบบจัดไฟแนนซ์ ซึ่งบอกก่อนว่ารีวิวนี้จะเป็นการเขียนรีวิวขั้นตอนการซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ว่ามีขั้นตอนเป็นอย่างไร และเราต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง
ซึ่งในคอนเทนต์นี้ บอกก่อนเลยว่าไม่ได้บอกวิธีการดูรถ หรือวิธีการเลือกซื้อรถมือสองแต่อย่างใด เพื่อให้เป็นแนวทางสำหรับคนที่ยังไม่เคยซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์มาก่อน เพื่อเตรียมตัวได้อย่างถูกต้อง
รีวิว ซื้อรถมือสอง แบบจัดไฟแนนซ์ มีขั้นตอนอะไรบ้าง
- รีวิว ซื้อรถมือสอง ขั้นตอนสำหรับมือใหม่ แบบละเอียด
- ถ้าต้องการผ่อน ทำเรื่องกับไฟแนนซ์ มีเรื่องดอกเบี้ยและ VAT เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
- ซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ ค่าโอน โดนสองต่อ เตรียมเงินตรงนี้ไว้ให้ดี
- สิ่งที่น่ารู้ ถ้าซื้อเงินสด รถมือสอง ไม่ต้องเสีย Vat ไม่เสียดอกเบี้ย ไม่ต้องทำประกันสินเชื่อ จ่ายเงินเต็มราคารถที่ได้ตกลงกันไว้ได้เลย
- ทำอย่างไรให้ดอกเบี้ยลดลง รีวิว ซื้อรถมือสอง
- สรุป รีวิว ซื้อรถมือสอง แบบจัดไฟแนนซ์ เหมาะกับใคร
รีวิว ซื้อรถมือสอง ขั้นตอนสำหรับมือใหม่ แบบละเอียด
ต้องบอกเลยว่าจริง ๆ แล้วส่วนตัวนี่ไม่ใช่การซื้อรถมือสองครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ซึ่งครั้งแรกนั้นจะเป็นการซื้อสด ไม่ได้จัดไฟแนนซ์ เลยมีประสบการณ์แค่โอนเงินแล้วก็โอนรถเท่านั้น แต่ในครั้งนี้เรียกว่าเป็นการซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ครั้งแรก เลยจะมาบอกเล่าประสบการณ์การซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์กันว่าเป็นอย่างไร
1. หารถที่ถูกใจ ราคาอยู่ในงบที่ตั้งเอาไว้
เป็นเรื่องแรกเลยก่อนที่จะซื้อรถ แน่นอนว่าก็ต้องเลือกรถก่อน ซึ่งตัวเองเลือกจากโชว์รูมหรือเต้นท์รถจากคนรู้จักไว้ก่อน เนื่องจากไว้ใจได้ และที่เลือกจากโชว์รูปหรือเต้นท์รถนั้นเนื่องจากทางโชว์รูมนั้นมีประสบการณ์จัดไฟแนนซ์เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว เพราะจะรู้ขั้นตอนเป็นอย่างดีแนะนำเราได้ แต่ถ้าเราเลือกซื้อรถมือสองจากบุคคลธรรมดาทั่วไปนั้น เราก็ต้องหาไฟแนนซ์เอาเอง เตรียมเอกสารเอง ซึ่งค่อนข้างมีหลายขั้นตอนพอสมควร ทางผู้เขียนเลยไม่อยากปวดหัวเริ่องนี้เท่าไรนัก
ส่วนการหารถที่ถูกใจ ก็เลือกจากรถรุ่นที่เรามองเอาไว้ ว่าอยากได้ยี่ห้อไหน มีความต้องการแบบไหน เน้นขับสบายหรือเน้นขนของขนคนหรือไม่ ก็จะช่วยสโคปได้พอสมควร แต่สำหรับตัวเอง รถที่ตัวเองอยากได้มานานแล้วนั่นคือรถ Mini ถึงแม้ว่าผู้เขียนเองจะเป็นคนตัวสูง แต่ก็ยังอยากได้รุ่นนี้อยู่ ซึ่งตอนที่เทียบราคาแล้วว่าจะซื้อมือหนึ่งหรือมือสองนั้น ก็ชั่งใจค่อนข้างนาน เลยสรุปออกมาเป็น Mini มือสองน่าจะดีกว่า (ถึงแม้หลายคนทัดทานเรื่องค่าบำรุงรักษาและค่าซ่อม ที่สูงกว่ารถญี่ปุ่นโดยทั่วไป แต่ทางผู้เขียนก็วางแผนไว้บ้างแล้ว ซึ่งหวังว่าจะไม่สูงจนเกินไปมากนัก)
โดย Mini ที่ดูเอาไว้คือ Mini Cooper S 2.0 รุ่น 3 ประตู ปี 2014 ในราคาที่ได้มาคือ 950,000 บาท นับว่าเป็นราคาที่เรามองว่าเหมาะสม แต่ทว่าจะมีปัญหาอย่างหนึ่งคือถ้าเราจ่ายเงินสด เงินเราจะหมดเงินก้อนไปกับรถคันนี้ทันที เราก็เลยตัดสินใจซื้อแบบจัดไฟแนนซ์น่าจะดีกว่า ถึงจะมีดอกเบี้ยและ VAT (ภาษีมูลค่าเพิ่ม) มากกว่าเดิมนิดหน่อย แต่ก็ช่วยทำให้เรามีกระแสเงินสดที่คล่องตัวมากขึ้น และไม่ต้องจ่ายเงินก้อนในครั้งเดียว
แอบบอกนิดนึงว่าโชว์รูมรถที่เราซื้อมาครั้งนี้ นั่นคือ King of Cars มีโชว์รูมหลักอยู่ที่ศรีนครินทร์ ซึ่งไม่ได้มีแต่รถมือสองเท่านั้น ยังมีรถมือหนึ่งด้วย สามารถเข้าเว็บไซต์ หรือเข้าไปที่ Facebook เพื่อดูรถอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ (บอกไว้ก่อนว่ารีวิวนี้เกิดการซื้อขายรถจริง ไม่ได้รับค่าจ้างในการทำคอนเทนต์แต่อย่างใด ต้องการรีวิวสนองนี้ดตัวเองล้วน ๆ)
2. ทำการจองรถ โดยมีสัญญาซื้อขายรถยนต์ จ่ายเงินค่าจองรถ
เมื่อเราเลือกรถมือสอง และเลือกโชว์รูมที่จะซื้อแล้วเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปเลยคือการทำสัญญาจองรถซึ่งโดยจะเป็นสัญญาซื้อขายรถยนต์ ว่าจะมีระบุเงินจอง (มัดจำ) เท่าไร และต้องชำระที่เหลือเท่าไร ซึ่งตรงนี้รวมแล้วก็จะเป็นราคาเดียวกับที่เราตกลงซื้อนั่นเอง แนะนำให้ถามก่อนว่าค่าจองรถนี้นั้นจะได้คืนหรือไม่ถ้าไม่ผ่านไฟแนนซ์ แต่โดยปกติแล้วถ้าเรายื่นกู้แล้วไม่ผ่าน ทางโชว์รูปหรือเต้นท์รถจะต้องคืนเงินตรงนี้ให้เราอยู่แล้ว
โดยผู้เขียนเองนั้นได้ทำการมัดจำไว้ที่ 50,000 บาท เพื่อที่จะทำสัญญาซื้อขายนั่นเอง โดยตอนแรกยังไม่ได้สรุปว่าจะดาวน์เท่าไร (จริง ๆ ต้องการดาวน์เยอะอยู่แล้ว) เพราะต้องการคุยกับไฟแนนซ์เรื่องดอกเบี้ยก่อนว่า จะได้เท่าไรนั่นเอง โดยก่อนที่เราจะเลือกไฟแนนซ์นั้นเราก็สามารถถามกับโชว์รูปได้เลยว่าตอนนี้ไฟแนนซ์ไหนดอกเบี้ยเริ่มต้นเท่าไร ดอกเบี้ยที่ไหนถูกใจเราก็แจ้งกับทางโชว์รูมได้เลย
ซึ่งหลังจากทำหนังสือสัญญาซื้อขายกันแล้ว ทางโชว์รูมจะเริ่มนัดเรากับไฟแนนซ์เพื่อมาคุยสรุปเรื่องการจัดไฟแนนซ์อีกครั้งหนึ่ง
3. ยื่นเอกสารกับทางไฟแนนซ์ แล้วรอผล
หลังจากที่ทางโชว์รูมนัดเรากับไฟแนนซ์ไปอีกรอบ ก็จะเป็นการยื่นเอกสาร ซึ่งส่วนมากจะเป็นเอกสารทั่วไปดังนี้
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สเตทเมนต์ รายการเดินบัญชีเงินฝาก
- สลิปเงินเดือน / ใบรับรองเงินเดือน (สำหรับพนักงานประจำ)
- ทวิ 50 / หลักฐานการยื่นภาษี (สำหรับฟรีแลนซ์)
ซึ่งในกรณีเราจะเป็นฟรีแลนซ์ก็จะมีเอกสารมากหน่อย แต่ก็ลิสต์ให้ทางไฟแนนซ์เรียบร้อย ซึ่งไฟแนนซ์ที่เราเลือกใช้คือ Orico Auto Leasing เป็นบริษัทที่ทำสินเชื่อรถยนต์มือสองโดยเฉพาะ เพราะดอกเบี้ยต่ำ จากนี้จะมีการคุยเรื่องว่าต้องการยื่นกู้ที่เท่าไร ต้องการผ่อนกี่เดือน ดอกเบี้ยจะเป็นเท่าไร จะทำประกันหรือไม่ และคำนวณราคาค่างวดรถไว้ให้เสร็จ โดยจริง ๆ มีสูตรในการคำนวณเพื่อให้คิดง่ายขึ้น จริง ๆ สูตรนี้สามารถนำไปใช้งานได้เลย ว่าเราจะต้องผ่อนจ่ายที่เดือนละเท่าไร
จำนวนเงินที่ขอสินเชื่อ * (ดอกเบี้ยต่อปี * จำนวนปีที่ขอผ่อนชำระ) = ดอกเบี้ยทั้งหมด
(จำนวนเงินที่ขอสินเชื่อ + ดอกเบี้ยทั้งหมด) * Vat 7% = มูลค่า Vat 7%
(จำนวนเงินที่ขอสินเชื่อ + ดอกเบี้ยทั้งหมด + Vat 7%) / จำนวนเดือนที่ขอผ่อนชำระ = ค่างวดต่อเดือน
ทาง rabbitor เองจะได้ยื่นกู้ไปที่ 700,000 บาท โดยได้ดอกเบี้ย 2.89% ต่อปี ผ่อนชำระที่ 48 งวด และทำประกันสินเชื่อรถยนต์ไว้ด้วย (แต่ประกันสินเชื่อรถยนต์จะจ่ายแยก ไม่รวมกับค่างวด) เมื่อคำนวณแล้วจะออกมาตามสูตรเลย
700,000 * (2.89 * 4) = 700,000 * 11.56% = 80,920 นี่คือดอกเบี้ยทั้งหมด
(700,000 + 80,920) * 7% = 54,664.40 นี่คือมูลค่า Vat ของสินเชื่อที่กู้และดอกเบี้ย
(700,000 + 80,920 + 54,664.40) / 48 = 835,584.40 / 48 = 17,408 บาท จำนวนเงินผ่อนต่องวด
โดยพวกประกันสินเชื่อรถยนต์ก็จะมีข้อสังเกตตรงนี้ด้วย
- ประกันสินเชื่อรถยนต์นั้น จะทำหรือไม่ก็ได้ แต่ถ้าทำจะได้ดอกเบี้ยต่ำลง
- ประกันสินเชื่อรถยนต์ จะจ่ายรวมกับงวดรถก็ได้ แต่ถ้าจ่ายแยก ก็จะไม่มีดอกเบี้ย
ถ้าต้องการผ่อน ทำเรื่องกับไฟแนนซ์ มีเรื่องดอกเบี้ยและ VAT เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
หลายคนอาจจะตกใจเมื่อได้เห็นว่า เอ๊ะ การซื้อรถมือสอง มี Vat 7% ภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยเหรอ บอกเลยว่ามี แต่เฉพาะในกรณีที่เราขอสินเชื่อกับทางไฟแนนซ์ เลยเรียกได้ว่าคนที่กำลังซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ต่างก็ลังเล เมื่อได้เจอภาษีมูลค่าเพิ่มตรงนี้เข้าไป เพราะว่าเมื่อเทียบกับมูลค่ารถก็ถือว่าเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
แล้ว Vat 7% คิดจากอะไร คือคิดจากราคาที่เราต้องการขอสินเชื่อ รวมกับดอกเบี้ย และคิด Vat 7% จากตรงนี้ ซึ่งจากในตัวอย่าง จะเห็นว่า Vat 7% ในกรณีของผู้เขียนเอง จะอยู่ที่ 54,664.40 บาท เลยทีเดียว ซึ่งก็น้อยกว่าดอกเบี้ยนิดหน่อยนะ (คิดแบบปลอบใจตัวเองโดยแท้)
แต่ที่หลายคนเข้าใจผิดถ้าเป็นการซื้อรถมือหนึ่งจะไม่เสีย Vat ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะว่า Vat โดนรวมเข้าไปกับราคาของรถไปแล้ว เลยทำให้ผู้ซื้อดูเหมือนว่าไม่ต้องเสีย Vat แต่เอาเข้าจริงมี Vat ที่รวมในราคารถไปแล้วนั่นแอง ซึ่งต่างจากรถมือสอง ถ้าซื้อขายแบบจัดไฟแนนซ์ Vat ก็จะเพิ่มตามมานั่นเอง
ซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ ค่าโอน โดนสองต่อ เตรียมเงินตรงนี้ไว้ให้ดี
สิ่งที่หลายคนมองข้ามไปเลยคือค่าโอน ซึ่งเราจะยังไม่ใช่เจ้าของกรรมสิทธิ์รถในทันที เราเป็นเพียงแค่ผู้ครอบครองเท่านั้น และเมื่อผ่อนจบ ทางไฟแนนซ์ ก็จะโอนรถมาเป็นชื่อเราเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถ แต่ที่พูดถึงว่าทำไมถึงต้องมีการโอนสองครั้งนี่ลองนึกภาพดู การโอนครั้งแรกคือ เจ้าของเดิม (โชว์รูมรถ) > ไฟแนนซ์ และครั้งที่สองคือเมื่อเราผ่อนจบ ไฟแนนซ์ก็จะโอนรถเป็นชื่อเรา ไฟแนนซ์ > ชื่อเจ้าของรถเมื่อผ่อนหมด เลยการเป็นมีการโอนสองรอบนั่นเอง ซึ่งตรงนี้จะเก็บเงินในครั้งเดียว
แล้วค่าโอนจริง ๆ คือเท่าไร ค่าโอนคิดตามราคาประเมินของรถ โดบค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 500 บาท ต่อ ราคาประเมินที่ 100,000 บาท นั่นเอง และอย่าลืมว่าต้องคิดแบบ 2 รอบเข้าไปด้วย และค่าโอนจริงๆ มีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ อีกเล็กน้อย เรียกว่าถ้าไม่เตรียมเงินตรงนี้ไว้อาจจะอึ้งได้ถ้าซื้อรถที่มีมูลค่าสูง ๆ ส่วนตัวผู้เขียนเองโดนค่าโอนไปที่ 15,000 บาท
สิ่งที่น่ารู้ ถ้าซื้อเงินสด รถมือสอง ไม่ต้องเสีย Vat ไม่เสียดอกเบี้ย ไม่ต้องทำประกันสินเชื่อ จ่ายเงินเต็มราคารถที่ได้ตกลงกันไว้ได้เลย
รีวิว ซื้อรถมือสอง สำหรับใครที่มีกำลังทรัพย์พร้อมที่จะจ่ายเงินซื้อรถเงินสดได้เลย ก็จ่ายตามราคาที่ตกลงกันได้เลย เพราะจะไม่มีการเสีย Vat ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีการทำประกันสินเชื่อ แต่แน่นอนว่าค่าโอนต้องมีอยู่ แต่เรียกได้ว่าเซฟไปเยอะ ประหยัดไปมาก แลกกับการจ่ายเงินก้อนออกไป แต่สำหรับที่ทางผู้เขียนเลือกจัดไฟแนนซ์ แน่นอนว่าทำให้เราไม่ต้องจ่ายเงินก้อน แต่จ่ายเงินรายเดือน พร้อมดอกเบี้ยและ Vat แทน แลกกับการที่ทำให้สภาพคล่องที่สูงขึ้น ไม่ต้องเอาเงินก้อนไปละลายกับรถหมดในทีเดียว เรียกว่าได้อย่างเสียอย่างเช่นกัน
ทำอย่างไรให้ดอกเบี้ยลดลง รีวิว ซื้อรถมือสอง
รีวิว ซื้อรถมือสอง ดอกเบี้ยเรียกได้ว่าเป็นตัวแปรสำคัญ ทำอย่างไรที่ดอกเบี้ยจะลดลงได้ จากที่ได้คุยกับทางไฟแนนซ์ และประสบการณ์ครั้งนี้เลยสรุปออกมาได้ 4 ข้อคือ
- ยิ่งดาวน์เยอะ ยิ่งดอกเบี้ยถูกลง ฟรีดาวน์ดอกเบี้ยบาน
ข้อนี้เป็นตัวแปรใหญ่ที่สุด คือถ้าเราวางดาวน์มากเท่าไร ดอกเบี้ยที่ได้ก็จะลดลงมาพอสมควร บางที่ลดในแง่ของ % ให้เลย หรือบางทีดอกเบี้ยดูไม่ได้ลดลงเลยก็มี แต่อย่าลืมว่า เงินดาวน์นั้นไม่มีการคิดดอกเบี้ย ดาวน์มาก จำนวนที่กู้สินเชื่อยิ่งน้อยลง ดอกเบี้ยก็ลดลงด้วยนั่นเอง แต่กลับกันถ้าเราฟรีดาวน์ ก็หมายความว่าเราต้องกู้สินเชื่อทั้งหมด เงินที่กู้ก็จะนำไปคิดดอกเบี้ยด้วยนั่นเอง - ยิ่งผ่อนนานดอกเบี้ยก็บานเช่นกัน ดังนั้นผ่อนสั้นไว้ก่อน ถ้าสภาพคล่องสูง
ดอกเบี้ยรถคิดเป็น % ต่อปี นั่นหมายความว่า ยิ่งผ่อนนาน ดอกเบี้ยที่เราต้องจ่ายก็จะสูงขึ้น ตามจำนวนเดือนที่เราต้องจ่ายไป และยิ่งผ่อนนานดอกเบี้ยจะสูงขึ้นตามที่ไฟแนนซ์กำหนด ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการผ่อน 48 เดือน ดอกเบี้ยต่อปีอยู่ที่ 2.89% นั่นหมายความว่าเราจะต้องจ่ายดอกเบี้ยรวม 2.89*4=11.56% นั่นเอง ซึ่งถ้าผ่อนนานกว่านี้ จำนวนปีก็จะเพิ่มขึ้น หรือดอกเบี้ยก็จะสูงขึ้นด้วย - เลือกไฟแนนซ์ก็มีผล เพราะขึ้นอยู่กับนโยบายของไฟแนนซ์นั้นในแต่ละช่วงเวลา
ไฟแนนซ์รถมือสองนั้นมีหลายที่ ซึ่งในแต่ละที่จะมีช่วงที่กำหนดนโยบายดอกเบี้ยของแต่ละที่ที่แตกต่างกัน ซึ่งจริงๆแล้วสอบถามทางโชว์รูมได้เลยว่าตอนนี้มีไฟแนนซ์ไหนที่ดอกเบี้ยต่ำ ๆ บ้าง ทางโชว์รูมก็จะแนะนำให้เอง ตรงนี้ถ้าเราไม่ได้อยู่ในวงการรถมือสองแล้วจะหาไฟแนนซ์เองก็น่าจะเป็นเรื่องยาก - การจัดโปรพิเศษหรือ เงื่อนไขพิเศษ ที่ช่วยให้ดอกเบี้ยลดลง
ในส่วนนี้สามารถสอบถามไฟแนนซ์ได้เลยในวันที่จะเซ็นสัญญา ว่ามีโปรอะไรบ้าง หรือเงื่อนไขอะไรที่จะทำให้ดอกเบี้ยลดลงได้อีก ของทางผู้เขียนแน่นอนว่าถ้าทำประกันสินเชื่อ ก็จะได้ส่วนลดดอกเบี้ย (ถือว่าลดเยอะอยู่นะ) และถ้าจ่ายค่างวดผ่อนล่วงหน้า 1 เดือนก็จะลดให้อีกเล็กน้อย ทางผู้เขียนเองไม่ได้ติดอะไรในเรื่องนี้ เลยได้ดอกเบี้ยที่ 2.89% ต่อปีตามที่แจ้งไปนั่นเอง
สรุป รีวิว ซื้อรถมือสอง แบบจัดไฟแนนซ์ เหมาะกับใคร
เหมาะกับคนที่ต้องการสภาพคล่อง และรับเรื่องดอกเบี้ยและเรื่อง VAT ได้ ถ้าต้องการผ่อน เพราะว่านี่คือจุดเด่นมาก ๆ ของการซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกว่าเป็นขั้นตอนทั้งหมดที่คนจะซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ต้องเตรียมตัวเอาไว้ เหมือนอย่างผู้เขียนเองที่ไม่ได้มีประสบการณ์มาก่อน เลยเก็บรายละเอียดบางส่วนออกมาเป็นการรีวิวขั้นตอนการซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์กัน หวังว่าคอนเทนต์นี้จะเป็นประโยชน์ต่อคนที่กำลังจะซื้อรถมือสองแบบจัดไฟแนนซ์ไม่มากก็น้อย
สำหรับใครที่ต้องการซื้อรถใหม่ และรถมือสอง สามารถติดต่อได้ที่ King of Cars เลือกรถกันได้เลย (ย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้รับค่าโปรโมทคอนเทนต์นี้แต่อย่างใด เขียนถึงเพราะบริการดีจริง)
- Facebook: King of Cars
- Website: https://kingofcarsthailand.com/
- LINE OA: @kingofcars
- โทร 084-12345-77
- Google Maps: สาขาศรีนครินทร์