รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY (เคสติฟาย) ใส่ชื่อได้ สีสวย น้ำหนักเบา ซื้อดีไหม?

รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY เคสติฟาย สำหรับใครที่เป็นเจ้าของผลิตภัณฑ์ของ Apple จะรู้เลยว่า Apple เก่งมากในการทำสินค้าขึ้นมา และต้องใช้ Accessories ด้วย ทำให้อุตสาหกรรมของพวกเคสและอุปกรณ์เสริมเติบโตขึ้นมาก

หนึ่งในนั้นคือ AirTag แอร์แท็ก คืออุปกรณ์ที่ไว้สำหรับติดตามสิ่งของที่หาย ซึ่ง Apple ได้เปิดตัว AirTag ไปเมื่อเมษายนปี 2021 ที่ผ่านมา ทำให้ AirTag กลายเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ของ Apple ที่เป็นสินค้าราคาไม่แพง (หรอ) และเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่คนขี้ลืมต้องมี

รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY (เคสติฟาย)

แต่เมื่อมี AirTag แล้วจะไม่มีเคสได้อย่างไรกันเล่า เนื่องจากการออกแบบของ AirTag เอง ทำให้การพกพาไปด้วยอาจหล่นหายได้ง่าย ดังนั้นเราเลยเลือกใช้เคส AirTag จาก CASETiFY เพราะว่าเราเคยมีประสบการณ์ใช้งานเคสมือถือของ CASETiFY ไปแล้ว และได้รับประสบการณ์ที่ดีเลยอุดหนุนเพิ่มแต่คราวนี้จะเป็นเคสของ AirTag จาก CASETiFY ว่าเป็นอย่างไรบ้าง จะดีเหมือนเคสมือถือหรือไม่

• รีวิว CASETiFY เคสมือถือแฟชั่นยอดนิยมสำหรับคนใช้ iPhone
• รีวิว Ultra Male น้ำหอมหวานนุ่มลุ่มลึกกลิ่นวานิลลา จาก Jean Paul Gaultier
• รีวิว Things 3 แอป To Do List ที่นักจัดระเบียบต้องมี ช่วยเพิ่ม Productive ใช้ดีแค่ไหน?
• รีวิว Satira สถิรา สินค้ากลิ่นบำบัด ก้านหอม น้ำมันหอมระเหย เทียนหอม แบบละเอียด
• รีวิว รู้ใจประกันภัย Roojai ซื้อประกันออนไลน์ง่าย ซื้อประกันรถยนต์ ชั้น 1, 2+, 3+ แค่ไม่กี่คลิก

รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY ในด้านการดีไซน์

การดีไซน์ของเคส AirTag ของ CASETiFY เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก โดยจะมี 2 แบบใหญ่ ๆ ให้เลือก แบบแรกคือแบบที่เป็นลวดลายมาแล้ว เช่นพวกที่ Collab กับแบรนด์อื่น ๆ ลายจะถูกกำหนดมาเรียบร้อย เราแค่เลือกสีเท่านั้น แต่ที่เราเลือกมาวันนี้เป็นแบบที่สอง นั่นคือเราปรับแต่งลวดลายเองได้ เพิ่มตัวอักษร อิโมจิ และเลือกสีเคสสวย ๆ ตามต้องการ

ในขั้นตอนแรก เราก็เลือกสีก่อน โดยจะมีสีทั้งหมด 7 สีให้เลือก

• สีขาวครีม Mushroom
• สีเหลือง Sunflower
• สีชมพู Peach
• สีม่วง Eggplant
• สีน้ำเงิน Blueberry
• สีเขียว Avocado
• สีดำ Licorice

ชื่อสีน่ารัก อยากกินขึ้นมาเลยทีเดียว สีเกือบทั้งหมดจะออกแนวพาสเทลเป็นหลัก ที่เราเลือกมาวันนี้คือสีดำ Licorice จากนั้นก็สามารถปรับแต่งได้คือเลือกอิโมจิ ซึ่งแบบนี้สีของอิโมจิจะเป็นสีดำทั้งหมด และใส่ได้อิโมจิเพียงอันเดียวเท่านั้น แต่ถ้าเลือกใส่ข้อความ จะสามารถใส่จำนวนตัวอักษรได้มากกว่า สูงสุดใส่ได้ถึง 11 ตัวอักษรด้วยกัน ยิ่งใส่จำนวนตัวอักษรมาก ขนาดตัวอักษรก็จะเล็กลงตามลำดับ (เฉพาะตัวอักษรภาษาอังกฤษ และห้ามเว้นวรรค) ส่วนตัวเลือกใส่ชื่อตัวเองลงไปที่ 4 ตัวอักษร คิดว่ากำลังสวยงาม ตัวไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป

ไม่พอเราสามารถเลือกฟอนต์ได้อีก มีฟอนต์ให้เลือกถึง 6 แบบ ด้วยกัน และสีตัวอักษรมีให้เลือก 17 สีเลยทีเดียว เรียกว่าปรับแต่งได้ตามใจ ส่วนตัวเลือกสีตัวอักษรเป็นสีเหลือง เพราะว่าสีเหลืองจะตัดกับตัวสีเคสที่เป็นสีดำ ทำให้เห็นได้อย่างเด่นชัดง่ายขึ้น และสวยงาม

รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY จากการใช้งานจริง

รีวิว เคส AirTag ของ CASETiFY จะประกอบด้วย 3 ส่วนด้วยกัน ตัวเคสจะมีทั้งด้านที่เว้ามีรูไว้ ให้หัวตัว AirTag ด้านโลหะที่มีโลโก้ Apple ออกมา อีกด้านคือเคสด้านทึบ และมีลวดลายอยู่ข้างนอก ในส่วนนี้จะเป็นเคสแบบแข็ง ส่วนที่สองคือที่ห้อยพลาสติกแบบวงกลม ไว้สำหรับเป็นข้อต่อห้อยตัวเคส AirTag กับที่ห้อยแบบวงรีอีกที สุดท้ายคือตัวห้อยวงรี ซึ่งจะเป็นโลหะ ก็จะมีสัญลักษณ์โลโก้ CASETiFY ติดอยู่ ไว้แขวนหรือห้อยกับสิ่งของที่เราต้องการใช้กับ AirTag ได้

แขวนได้ทุกที่ ปกป้องรอยขีดข่วนได้ดีในหลายจุด

เคส AirTag เคสติฟายนั้น ปกป้องได้เกือบรอบด้าน (มีเฉพาะด้านที่เว้นไว้โชว์โลโก้ Apple เท่านั้น) ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะมีรอยมั้ย ไม่ว่าจะหล่นหรือแขวนกับอะไรก็ตาม ถึงแม้จะใส่เคสแล้วก็ตาม การส่งเสียงร้องของ AirTag ก็ยังทำได้ดี เสียงดังฟังชัด ไม่แตกต่างจากตอนที่ไม่ใส่เคสเลย ทำให้หมดกังวล

ตัวเคสมีน้ำหนักเบา ไม่หนัก ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้

ตัวเคสและที่ห้อยทั้งสองอันมีน้ำหนักเบามาก ถึงแม้ตัวห้อยจะทำมาจากโลหะ แต่ก็มีน้ำหนักเบา เมื่อประกอบกับตัว AirTag ทำให้ดูคล่องตัวมาก สามารถนำไปห้อยกับอะไรก็ได้ สำหรับใครที่จะนำไปห้อยกับปลอกคอสัตว์เลี้ยง หมดกังวลเรื่องน้ำหนักไปเลย อีกทั้งตัววัสดุเองทำมาจากโพลีคาร์บอร์เนตที่ผ่านการรีไซเคิลแล้ว รวมไปถึงหมึกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วัสดุทั้งหมดนี้สามารถรีไซเคิลและย่อยสลายได้ ทำให้เป็นเคสที่เหมาะกับคนที่รักษ์โลกด้วย

ปรับแต่งได้ตามใจ เป็นเคสเฉพาะของคุณเอง

อันนี้เรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งที่สุดของ CASETiFY เลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นเคส AirTag แต่เราก็สามารถปรับแต่งได้มาก ทั้งการใส่อิโมจิ หรือจะใส่ตัวอักษรและเลือกสี ทำให้เคส AirTag ของเรามีคุณค่า และเป็นแบบเฉพาะของเราเอง ไม่เหมือนเคสที่มีโดยทั่วไป ทำให้ค่อนข้างเหมาะกับการที่จะเลือกซื้อเป็นของขวัญให้กับตัวเอง เพื่อนหรือคนรู้ใจก็ยังได้

ข้อที่ควรพิจารณาสำหรับ เคส AirTag จาก CASETiFY

ใช่ว่าเคส AirTag แบรนด์ CASETiFY จะมีแต่ข้อดีไปเสียทั้งหมด ก็ต้องมีจุดที่ควรพิจารณากันบ้าง ซึ่งทั้งหมดนี้ rabbitor ได้รวบรวมมากจากการใช้งานจริง

ราคาเคสอยู่ที่ $35 นับว่าราคาสูงกว่า AirTag เสียอีก

ราคาเคส AirTag สำหรับ CASETiFY อยู่ที่ชิ้นละ $35 (USD) ถ้าแปลงเป็นเงินไทยง่าย ๆ ลองคูณด้วย 33 บาทเข้าไป จะอยู่ที่ราว 1,155 บาทเลยทีเดียว นับว่าราคาสูงกว่าตัว AirTag เองเสียงอีก ที่ขายอันละ 990 บาท แต่อย่างน้อยก็ไม่น่ากลัว AirTag หาย เพราะยังตามได้ แต่ถ้าเคสของ CASETiFY หายไป หรือโดยแกะแยกออกมา ก็ยากที่จะตามเจอ

ลวดลายเน้นความสดใสวัยรุ่น แต่ว่าไม่ได้เรียบหรู หรือเป็นทางการ

เท่าที่ลองค้นหาดูนั้น รีวิว เคส AirTag ของ CASETiFY มักจะมีสีสันสดใส การออกแบบดูมีลูกเล่นทำให้เคสเหมาะกับคนที่ชื่นชอบความไม่เป็นทางการมากนัก แต่ถ้าต้องการดีไซน์ที่ดูเป็นทางการหรือเน้นเรียบหรู แนะนำเป็นเคสสีดำแบบไม่มีลวดลาย ก็สามารถใช้งานได้ดีเช่นกัน

แจกโค้ด ลดทันที $10 สำหรับลูกค้าใหม่ เมื่อซื้อ CASETiFY ครั้งแรก

สำหรับใครที่ยังไม่เคยซื้อสินค้า CASETiFY จากบนเว็บไซต์โดยตรง โอกาสมาถึงแล้ว เพียงแค่คลิกลิงก์นี้ ก็จะได้รับส่วนลดซื้อสินค้า CASETiFY ไปเลย $10 คลิกเลย >>> https://www.casetify.com/invite/b5tkmk

ยังไม่พอ ตอนนี้มีโปรพิเศษ เมื่อซื้อเคส AirTag จาก CASETiFY 2 ชิ้นขึ้นไป จะมีส่วนลดให้อีก 15% ซึ่งเท่ากับว่าเราจ่ายเพียง $59.50 เท่านั้น ลดไปทันที $10.50 และถ้าใครคลิกลิงก์จาก rabbitor.net ก็จะได้รับส่วนลดไปอีก $10 สำหรับลูกค้าใหม่

การจัดส่งและภาษีเป็นอย่างไร ส่งฟรีไหม ใช้เวลานานหรือเปล่า

เนื่องจากว่าเป็นเคสที่มีลักษณะปรับแต่ง จึงค่อนข้างใช้เวลานานพอสมควร เพราะสั่งซื้อไปเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ได้รับอีเมลว่าสินค้าส่งแล้วจากที่ต้นทางคือฮ่องกง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม และจัดส่งถึงมือในวันที่ 18 ตุลาคม นับว่าใช้เวลารวมกันทั้งสิ้นอยู่ที่ 18 วันเลยทีเดียว แต่ถ้าเทียบว่าเป็นการจัดส่งอย่างเดียวถือว่าเร็วมาก นั่นคือภายใน 1 อาทิตย์เท่านั้น ถึงแม้ว่าสินค้าจะถูกสั่งมาจากต่างประเทศก็ตาม (ฮ่องกง) ซึ่งถ้าเราไม่ได้เลือกสินค้าที่ปรับแต่งเองคิดว่าถึงมือเร็วกว่านี้แน่นอน

ส่วนเรื่องภาษี ไม่ต้องเป็นกังวลเลย ถ้าซื้อเพียงแค่ 1-2 ชิ้น และจัดส่งแบบปกติ เพราะส่วนตัวยังไม่เคยโดนแม้แต่ครั้งเดียว แต่ทว่าถ้าสั่งซื้อมากกว่านี้ จำนวนเงินมากกว่านี้ หรือส่งแบบด่วนพิเศษจาก DHL ไม่ขอรับประกันว่าจะโดนภาษีหรือไม่แต่อย่างใด 

ส่วนการจัดส่งคือส่งฟรี เมื่อสั่งซื้อสินค้าเกิน $35 ส่งจากฮ่องกง เมื่อทาง CASETiFY จัดส่ง เราสามารถนำเลข Tracking ไปเช็คกับทางไปรษณีย์ไทยได้เลย

โดยสรุป รีวิว เคส AirTag จาก CASETiFY ซื้อดีไหม?

สำหรับใครที่เป็นเจ้าของ AirTag และต้องการหาเคสสำหรับแอร์แท็กดี ๆ เพื่อมาปกป้อง และแขวน AirTag กับสิ่งของอย่างอื่น นับว่า CASETiFY เป็นตัวเลือกที่ดีเลยทีเดียว ทั้งดูทันสมัย สดใส สามารถแขวนกับอะไรก็ง่าย น้ำหนักเบา ปรับแต่งได้เยอะ ปกป้องรอยขีดข่วนได้ดี มีเพียงแต่เรื่องราคาเท่านั้น เป็นเคสที่มีราคาสูงกว่าตัว AirTag เองเสียอีก แต่ถ้าใครเป็นแฟน CASETiFY หรือชื่นชอบการออกแบบอยู่แล้ว บอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด