เที่ยวเกาะหวาย ทำไมถึงเลือกไปที่เกาะหวาย หลังจากที่ได้ไปเที่ยวมา บอกตรง ๆ ว่าค่อนข้างประทับใจอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้านี้เพื่อนของผู้เขียนชวนไปเที่ยวเกาะหวาย ที่อยู่จังหวัดตราด ใกล้กับเกาะช้างและเกาะหมาก แต่ว่าเป็นส่วนตัวและไม่วุ่นวายเท่า ผู้เขียนเลยตอบตกลงที่จะไปด้วย โดยเดินทางไปยังจังหวัดตราดโดยรถยนต์ส่วนตัว
เลือกอ่านส่วนที่ต้องการ
ก่อนที่เราจะไป เที่ยวเกาะหวาย ต้องอย่าลืมโทรจองสถานที่พักก่อน
แนะนำว่าเมื่อเราเลือกที่จะไปเที่ยวเกาะหวายแล้ว แนะนำให้ทำการจองและบุ๊ควันที่กับรีสอร์ทที่เราจะต้องการไป ซึ่งทาง rabbitor นั้นได้เลือกที่จะจองที่พักกับ Good Feeling Resort ที่เกาะหวาย โดยมีค่าใช้จ่ายที่พักต่อคืนอยู่ที่คืนละ 900 บาทเท่านั้น ในบ้านแต่ละหลังสามารถพักได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว และสามารถให้ทางที่พักจองเรือสปีดโบ๊ทไปกลับได้เลย ค่าเรือสปีดโบ๊ทไปกลับต่อคนอยู่ที่ 900 บาทเช่นกัน สามารถจ่ายค่ามัดจำไว้ได้
ที่พัก Good Feeling เกาะหวาย
เบอร์โทรติดต่อ 0818503410
>>> Google Maps <<<
จากนั้นค่อยตรงไปที่จังหวัดตราด ท่าเรือแหลมงอบ
ในทริปนี้ทาง rabbitor ได้นั่งรถส่วนตัวไปที่จังหวัดตราด แต่ว่าเพื่อความปลอดภัยและมีเวลา ไม่ต้องเน้นออกเช้ามากนัก ทำให้เราแวะคาเฟ่และพักโรงแรมในจังหวัดจันทบุรีอย่างน้อย 1 คืน เพื่อที่จะไม่ได้รู้สึกหนักเกินไป จากนั้นจึงค่อยขับรถไปยังท่าเรือแหลมงอบ โดยบริเวณนั้นจะมีบริการรับฝากรถยนต์อยู่ใกล้ ๆ อัตราค่าบริการประมาณ 50 บาทต่อคันต่อคืน

แนะนำว่าจำเป็นมากที่ต้องไปถึงท่าเรือแหลมงอบราว 11.00 น. เนื่องจากสปีดโบ๊ทที่จะไปยังเกาะหวายนั้น มีเพียงวันละหนึ่งรอบเท่านั้น และออกจากท่าเรือแหลมงอบ 11.30 น. เพราะถ้าตกรอบไปก็จำเป็นที่จะต้องรอวันถัดไปเลยทีเดียว ส่วนขากลับเรือสปีดโบ๊ทจะออกจากเกาะหวายเวลา 09.00 น. มีเพียงวันละเที่ยวเช่นกัน ระยะเวลาจากท่าเรือแหลมงอบไปยังเกาะหวายด้วยสปีดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 40 นาที โดยเมื่อเทียบท่าที่เกาะหวายแล้ว เราเดินไปยังล็อบบี้หรือร้านอาหารของ Good Feeling ได้เลย ส่วนสัมภาระจะมีเจ้าหน้าที่พายเรือไปให้ยังรีสอร์ทตามหมายเลขบ้านที่เราจองและเข้าพักไว้
>>> Google Maps ท่าเรือแหลมงอบ <<<
จุดเด่นของที่พักและเกาะหวาย
- ที่พักเป็นส่วนตัวมาก ออกจากที่พักคือเจอหาดทรายสีขาวทันที
ที่พักเป็นลักษณะคล้ายบังกะโล ขนาดไม่ใหญ่มาก นอนได้ 2 คน มีห้องน้ำในตัว ซึ่งที่เราพักกันในครั้งนี้คือหลังที่ 11 ที่สุดคือหน้าที่พักเป็นเหมือนชายหาดส่วนตัวชัด ๆ เพราะว่าที่พักแต่ละตั้งอยู่ห่างไกลกันออกไปพอสมควร ให้ความรู้สึกที่เงียบสงบ รับรู้ถึงเกลียวคลื่น ได้ฟังเสียงคลื่นทะเลซัดสาดมา ก็ผ่อนคลายแล้ว และยังมีจุดดำน้ำตื้นที่อยู่ใกล้หน้าหาดด้วย น้ำไม่ลึก เดี๋ยวจะกล่าวต่อในย่อหน้าถัดไป - อาหารอร่อย จริง ๆ คุ้มค่ากับราคาและคุณภาพ
ที่พักของ Good Feeling Resort นั้น เราสามารถไปนั่งทานอาหารได้ ราคาอาหารถ้าเป็นกับก็อยู่ที่ราว 150-300 บาท ขึ้นอยู่กับวัตถุดิบและเมนู แต่ให้เยอะ สามารถแบ่งกินได้ 2-3 คนเลย หรือถ้าเป็นเมนูอาหารตามสั่งจานเดียวราคาอยู่ที่ ~100 บาท สามารถโทรสั่งเพื่อนำกลับมาทานที่บ้านพักได้ด้วย โดยเฉพาะอาหารทะเล สดใหม่มาก - กิจกรรมในเกาะหวายเรียบง่าย เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน
ที่นี่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เนื่องจากที่พักแต่ละหลังอยู่ห่างกันพอสมควร และคนไม่มาก จึงไม่ต้องกังวลเสียงจอแจ มีแต่เสียงธรรมชาติทั้งเสียงคลื่น สายลม เน้นความเรียบง่ายและเป็นกันเอง กิจกรรมต่าง ๆ ก็เน้นการชมความสวยงามของธรรมชาติเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงเหมาะกับคนที่รักความเป็นส่วนตัว
ชายหาดสวยงาม สะอาด ทรายขาวละเอียด คนน้อย เงียบสงบ ธรรมชาติสุดๆ ชายหาดหน้าบ้านพัก มุมมองจากด้านในบ้านพัก
มีกิจกรรมอะไรให้ทำบ้างที่เกาะหวาย
เกาะหวายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สงบ เพราะจำนวนบ้านพักและรีสอร์ทมีไม่มาก ทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวถูกจำกัดไว้ ซึ่งกิจกรรมของเกาะหวายนั้น เน้นมาพักผ่อนเป็นหลัก ทาง rabbitor.net เลยแบ่งกิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเกาะหวาย
ตกหมึก หมึกตัวเป็น ๆ ตัวใส ๆ สด ๆ
กิจกรรมอย่างแรกที่เรานึกถึงเลย คือการตกหมึก ซึ่งที่รีสอร์ทมีบริการให้คนพายเรือพานักท่องเที่ยวไปตกหมึก มีค่าบริการคนละ 200 บาท โดยจะเริ่มช่วงเย็น ๆ หรือโพล้เพล้ของวันถึงจะออกเรือ แล้วเค้าจะพาเราไปตกหมึก ซึ่งก็ใช้เบ็ดสำหรับตกหมึก หน้าตาจะเป็นตะขอรอบ ๆ เราก็มีหน้าที่เหวี่ยงเบ็ด แล้วก็ค่อยหมุนรอก โดยทางพี่ที่พาเราขับเรือมานั้น ก็จะแล่นเรือไปเรื่อย ๆ ด้วยความเร็วน้อย ๆ แต่คงที่ คิดเอาเองว่าปลาหมึกน่าจะชอบเหยื่อที่เคลื่อนที่ได้ประมาณหนึ่ง จากใจที่คนไม่เคยตกหมึกเลย นับว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกที่ตื่นเต้นมาก และค่อนข้างน่าจะใจคือเราค่อนข้างตกหมึกได้เยอะเสียด้วย
เต็มถัง ตัวเบ้อเร่อ ตัวใส สดใหม่ ที่รีสอร์ทปรุงเป็นอาหารให้ได้ด้วย นับว่าเป็นประสบการณ์ตกหมึกครั้งแรก ตัวใหญ่มากๆ เมื่อเทียบกับมือผู้ชาย
หมึกตัวใหญ่มากกกกกก และมีเยอะด้วย จากที่เราได้ถามชาวบ้านในท้องที่แนะนำกับเราว่า การตกหมึกขึ้นอยู่กับช่วงวันเวลาเป็นหลัก แนะนำว่าให้เป็นช่วงที่ทะเลสงบ คลื่นลมน้อย ช่วงที่ไม่ค่อยแนะนำเลยคือช่วงมรสุมคลื่นลมแรง และถ้าจะให้ดีเป็นช่วงเดือนหงาย ก็จะมีโอกาสตกหมึกได้มาขึ้นด้วย เมื่อเราได้หมึกมาพอสมควร สามารถแจ้งให้ทางรีสอร์ทนำไปทำอาหารตามที่เราต้องการได้ ระบุเมนูได้เลย มีค่าใช้จ่ายในการปรุงอาหารนิดหน่อย สรุปว่าวันนั้นคือิ่ม อร่อย เปรมจากเมนูหมึก และยังได้ประสบการณ์ดี ๆ จากการตกหมึกครั้งแรกด้วย
ขึ้นเขาเพื่อชมความงามของพระอาทิตย์ตกดึก
อีกด้านทางทิศตะวันตกของเกาะหวายจะเป็นหน้าผาที่ค่อนข้างสูงชันขึ้นมา ระยะเดินทางประมาณ 2-3 กิโลเมตร เดินบุกป่าและขึ้นเขาเล็กน้อย (แต่ก็เหนื่อยเอาเรื่องเลยทีเดียว) จะพบกับจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน เรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ภาพทิวทัศน์ของที่นี่เลยก็ว่าได้ เป็นภาพสุดลูกหูลูกตา ท้องทะเลคลื่นลม และมีหน้าผา เป็นฉากที่โรแมนติคมากทีเดียว แนะนำว่าให้ขึ้นมาก่อน 5 โมงเย็น สัก 4 โมงครึ่ง ก็สามารถเดินขึ้นเขาได้แล้ว เหมาะมากกับการเป็นสถานที่ที่นั่งปล่อยใจไปกับทะเล สายลม และภาพพระอาทิตย์ตกดิน
วิวทะเลจรดขอบฟ้า เห็นแล้วอบอุ่นใจ ชอบภาพนี้ เลยเอามาโชว์เฉยๆ
เที่ยวเกาะหวาย ดำน้ำตื้น ชมปะการัง
ส่วนจุดดำน้ำตื้นคือ หน้าหาดที่เราพักเลย (จริงงงงงง) แต่ตรงส่วนนั้นปะการังอาจจะไม่สวยเท่าเขตที่กั้นจุดไว้ไม่ให้เรือผ่าน ตรงนั้นปะการังค่อนข้างสวย ซึ่งเราสามารถดำน้ำตื้นได้เอง ซึ่งทางรีสอร์ทมีอุปกรณ์ให้เช่าทั้งหน้ากากดำน้ำตื้น และเสื้อชูชีพ เกิดมาเพิ่งเคยเห็นหอยเม่นตัวเป็น ๆ และตัวใหญ่มาก ปลาหลากหลายชนิด แต่แอบบอกไว้ก่อนว่ารูปที่ถ่ายมา อาจจะดูไม่สวยนักเนื่องจากวันที่ไปดำน้ำตื้นกันนั้นเป็นช่วงหลังฝนตกใหม่ ๆ ทำให้น้ำค่อนข้างขุ่น แต่ถ้าดูด้วยตาคือสวยจริง ๆ และค่อนข้างเป็นส่วนตัว เพราะจุดดำน้ำตื้นใกล้ที่พักมาก และมีคนจำนวนน้อย
หอบงานไปทำด้วยได้มั้ย?
นี่รีวิวสถานที่ท่องเที่ยวจริงเหรอ? ทำไมถึงมีหัวข้อนี้ หลายคนค่อนข้างห่วงงานเมื่อต้องออกมาท่องเที่ยว (แน่นอนว่าผู้เขียนก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำงานด้าน Digital Marketing งานทุกอย่างทำงานผ่านอินเทอร์เน็ต) เราสามารถเอาโน้ตบุ๊คมาทำงานด้วยได้ แต่เนื่องจากตัวรีสอร์ทเองไม่ได้มีอินเทอร์เน็ตให้บริการที่ตัวบ้านพักในแต่ละหลัง เพราะฉะนั้นค่อนข้างจำเป็นที่จะต้องต่อ Hotspot กับมือถือเพื่อให้โน้ตบุ๊คใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ และจำเป็นอย่างมากที่จะต้องพก Power Bank หรือแบตเตอรี่สำรองเพื่อนำมาชาร์จมีถือหรือโน้ตบุ๊ค เพราะว่าในบ้านพักนั้นไม่มีได้ปลั๊กไฟบริการ ถ้าต้องการจะชาร์จอุปกรณ์ จำเป็นที่จะต้องไปที่บริเวณส่วนกลาง แล้วเอามือถือ โน้ตบุ๊ค และพาวเวอร์แบงก์ไปชาร์จทิ้งไว้ได้เลย ใครที่รักงาน ก็เตรียมพร้อมอุปกรณ์ไว้ก่อนได้
จุดที่ควรพิจารณา
- บ้านพักเน้นธรรมชาติมาก มีทรัพยากรจำกัด
เนื่องจากว่าเกาะหวายเป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก ทำให้ทรัพยากรมีจำกัด เช่นไฟฟ้า ทำให้บ้านพักที่เรามาพักนั้นไม่มีแอร์ (อันนี้ส่วนตัวไม่กังวลเท่าไร เพราะต้องการเน้นธรรมชาติอยู่แล้ว) และไฟฟ้าในช่วงกลางคืนนั้นเมื่อถึงระยะเวลาตอนดึก ก็จะเครื่องปันไฟก็จะหยุดทำงาน ทำให้ไฟฟ้าดับสนิท และในห้องพักนั้น ไม่มีเต้ารับสำหรับชาร์จไฟ (แต่มีพัดลม เดินสายไฟตรงมาที่พัดลมเลย) ซึ่งถ้าเราต้องการใช้ชาร์จเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัว เราจำเป็นไปที่ตรงล็อบบี้ ของรีสอร์ท เพื่อทำการชาร์จไฟทิ้งเอาไว้ สำหรับใครหลายคนจุดนนี้อาจจะดูลำบากไปเสียหน่อย - กิจกรรมเรียบง่าย เป็นส่วนตัวสูง
อันนี้ถือว่าเป็นข้อดีของคนที่ชอบความสงบ แต่สำหรับสายปาร์ตี้แล้ว อาจจะดูน่าเบื่อไปเลย เพราะกิจกรรมบนเกาะไม่ได้เน้นความปาร์ตี้เท่าไรนัก เน้นหนักทางธรรมชาติ เป็นแหล่งพักผ่อน เน้นความเรียบง่ายและเงียบสงบมากกว่า
เที่ยวเกาะหวาย เหมาะกับใคร ค่าใช้จ่ายโดยประมาณอยู่ที่เท่าไร
อย่างที่กล่าวไปว่าเกาะหวายเป็นเกาะที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก รีสอร์ทมีจำนวนจำกัด ทำให้มีนักท่องเที่ยวต่อวันไม่มาก ทำให้ลักษณะโดยรวมของการท่องเที่ยวในทริปนี้ค่อนข้างสงบ เน้นความสวยงามตามธรรมชาติเป็นหลัก เน้นฟังเสียงเกลียวคลื่นทะเล มานั่งพักผ่อนรับสายลม แสงแดด รักความเป็นส่วนตัว
ค่าใช้จ่ายโดยรวมในทริปนี้ เราไปกัน 4 วัน 3 คืน
- ค่าที่พักคืนละ 900 บาท รวม 2,700 บาท
- ค่าเรือสปีดโบ๊ท ไป-กลับ รวม 900 บาท ต่อคน
- ค่าอาหาร วันละประมาณ 500-800 บาท ต่อคนต่อวัน รวม 2,000-3,200 บาท
- ค่าเรือตกหมึกคนละ 200 บาท ต่อครั้ง
ทั้งหมดนี้รวมอยู่ที่ประมาณคนละ 7,000 บาท แต่ยังไม่รวมค่าเช่าอุปกรณ์ดำน้ำตื้น และค่าเดินทางมายังจังหวัดตราด
ในทริปเที่ยวเกาะหวายนั้น นับว่าเป็นอีกทริปที่ประทับใจมาก เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบความวุ่นวายมากนัก และที่นี่เน้นตอบโจทย์เป็นที่สุด คนไม่พลุกพล่าน เหมือนได้หลีกหนีมาจากสถานที่ที่เราอยู่เป็นประจำ เอาเป็นว่าในอนาคตจะกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน