รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean รีวิว เครื่องดูดฝุ่น ไดสัน เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่ การทำความสะอาดบ้านนับว่าเป็นเรื่องที่เหนื่อยเอาการ ครั้นจะจ้างแม่บ้านมาดูแล บ้านเราก็ใช่ว่าจะหลังใหญ่ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจ้างแม่บ้าน
ต้องบอกก่อนว่าที่บ้านตัวเองขนาดไม่ใหญ่มาก และมีปัญหาเรื่องฝุ่นค่อนข้างมาก เนื่องจากหมู่บ้านมีการกำลังก่อสร้างเฟสที่ 2 ใกล้ ๆ ทำให้เกิดฝุ่นลอยเข้ามาตามลมพอสมควร อีกทั้งที่บ้านนี่เป็นที่อยู่อาศัยของจิ้งจก ไม่รู้ว่ามาจากไหนกัน เห็นตัวบ้างไม่เห็นบ้าง แต่ร่องรอยที่จิ้งจกทิ้งเอาไว้คือขี้จิ้งจก ต้องมากวาดบ่อย ๆ ยิ่งกวาดฝุ่นยิ่งฟุ้ง เลยสรุปว่าถึงเวลาต้องซื้อเครื่องดูดฝุ่นแล้ว เลยนั่งหาคุณสมบัติ ราคา และรีวิวต่าง ๆ ซึ่งส่วนมากชอบอ่านรีวิวจากกลุ่ม งานบ้านที่รัก ใน Facebook เลยได้ตัดสินใจว่าเลือกเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean
และต้องแจ้งไว้ก่อนว่านี่เป็น Customer Review จริง ไม่มีการสปอนเซอร์แต่อย่างใด เพราะถ้ามีสปอนเซอร์จริง ทาง rabbitor.net จะแจ้งไว้ก่อนเสมอ
รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean อ่านหัวข้อที่ต้องการ
- ทำไมถึงต้อง ซื้อ Dyson V12 Detect Slim
- รีวิวรูปลักษณ์ภายนอกของเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean
- รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean การใช้งาน เครื่องดูดฝุ่น ใช้ดีไหม สิ่งที่ชอบ?
- สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean
- ราคา Dyson V12 Detect Slim Total Clean เท่าไรเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim มีทั้งหมด 4 รุ่น
- เครื่องดูดฝุ่น ไดสัน Dyson V12 Detect Slim Total Clean หาซื้อได้ที่ไหน มีรับประกันหรือไม่
- สรุปเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ดีไหม และเหมาะกับใคร
ทำไมถึงต้อง ซื้อ Dyson V12 Detect Slim
ต้องเล่าจากประสบการณ์ส่วนตัวก่อน เนื่องจากส่วนตัวไม่เคยใช้เครื่องดูดฝุ่นมากก่อนเลย ปกติใช้แต่ไม้กวาดกับที่โกยผงปกติทั่วไป ซึ่งเมื่อก่อนอยู่ในคอนโดขนาดเล็ก ๆ ก็รู้สึกว่ากการกวาดบ้านก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เมื่อได้ซื้อบ้านเมื่อปลายปี 2564 ที่ผ่านมา เนื้อที่ในบ้านใหญ่ขึ้นมาก พื้นที่ใช้สอยใหญ่กว่าคอนโดที่เคยอยู่ราว 5 เท่า การกวาดบ้านแบบปกติคือรู้สึกเลยว่าเหนื่อย ยิ่งกวาดก็ยิ่งฟุ้ง จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องตามหาเครื่องดูดฝุ่น
ส่วนเรื่องฝุ่นและความสกปรกภายในบ้านนั้น เนื่องจากบ้านที่ตัวเองอยู่จะมีหมู่บ้านที่กำลังก่อสร้างอยู่ใกล้ ๆ ทำให้ช่วงเวลากลางวันถ้าเผลอเปิดบ้านไว้ จะรับรู้ได้เลยว่ามีฝุ่น โดยเฉพาะฝุ่นแดง ๆ ที่มาจากดินก่อสร้างลอยตามลมมา ผสมกับฝุ่นในชีวิตประจำวัน ยังไม่พอยังมีเส้นขนและเส้นผม ที่หลุดร่วงอยู่ทั่วบ้าน และปัจจุบันนี้ตัวเองเลี้ยงแมวอยู่ 1 ตัว (แต่แมวยังไม่ได้ย้ายมาบ้านใหม่) อีกทั้งบ้านที่ย้ายมาใหม่อุดมไปด้วยขี้จิ้งจก มีจิ้งจกในระดับที่เยอะมาก นาน ๆ จะเห็นตัวสักที แต่พอเช้ามาก็จะเห็นขี้จิ้งจกตามซอกหลืบต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ทำให้หงุดหงิดทุกทีเวลากวาดบ้าน เลยต้องหาตัวช่วยเป็นเครื่องดูดฝุ่น
ซึ่งในตอนแรกไม่รู้จะซื้ออะไร แต่ที่คิดไว้คือเน้นใช้งานง่ายไว้ก่อน จนค้นหาไปมาเจอ Dyson ที่มีรุ่นให้เลือกมากมายไม่ว่าจะเป็น V11, V8 หรือ Omni-Glide แต่พอได้ค้นคว้าจริง ๆ จึงสรุปตัวเลือกมาเป็น รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean
รีวิวรูปลักษณ์ภายนอกของเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean
- ตัวเครื่องหลักของเครื่องดูดฝุ่น
ส่วนตัวเครื่องหลักของ Dyson V12 Detect Slim นั้น ที่ซื้อมาเป็นรุ่นสีทองสลับม่วง มีปุ่มสีแดง เป็นปุ่ม Power สำหรับเปิดปิดการทำงานของเครื่องดูดฝุ่น ซึ่งถ้าเป็นรุ่นเก่ากว่านี้ ปิดเปิดปิดจะเป็นเหมือนไกปืนที่ต้องกดแช่ไว้ตลอด เครื่องถึงจะทำงาน แต่พอเป็นปุ่มกดแบบเปิดปิด จะช่วยให้ใช้งานง่ายมากกว่า เพียงแค่กดเบา ๆ เครื่องก็สามารถทำงานได้แล้ว และยังมีหน้าจอ LCD ที่ไว้สำหรับแสดงผลหน้าจอ ว่าเรากำลังใช้โหมดอะไร และสามารถดูฝุ่นที่เราดูดมาได้ว่ามีจำนวนเท่าไร ขนาดอะไรบ้าง บริเวณด้านล่างของหน้าจอ LCD ก็จะมีปุ่มเล็ก ๆ ไว้ปรับความแรงของการดูด โดยจะมี 3 โหมดด้วยกัน คือ Eco, Auto และ Boost ซึ่งถ้าเป็นโหมด Eco เมื่อชาร์จเต็ม 100% จะใช้ได้นานราว 60 นาที โหมด Auto จะใช้ได้นาน 35 นาที และโหมด Boost นั้นใช้ได้ราว ๆ 14 นาที
ส่วนที่เป็นถังเก็บฝุ่นนั้นมีขนาดอยู่ที่ 0.35 ลิตร ดูเหมือนเล็ก แต่เข้าใจเนื่องจากว่าเป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ทำให้จำเป็นที่จะต้องน้ำหนักเบา กะทัดรัด ถังเก็บฝุ่นจึงมีขนาดเล็กด้วย แต่ว่าด้านในมีระบบการกรองฝุ่นได้ถึง 99.99% เล็กที่สุดคือ 0.3 ไมครอน ทำให้ลมที่ออกมาจากการดูดนั้นเป็นอากาศที่ผ่านการกรองเรียบร้อยแล้ว
- ไดสันมีหัวให้มาเยอะมาก ถึง 7 หัว และมีอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
จุดเด่นของเครื่องดูดฝุ่น Dyson ในเซ็ตนี้จะมีหัวดูดฝุ่นให้มากเยอะมาก เริ่มจากหัวแรก เป็นหัวเลเซอร์สลิมฟลัพฟี่ (Laser Slim Fluffy Cleaner Head) จุดเด่นที่เป็นนวัตกรรมของ Dyson ในหัวดูดนี้คือมันมีเลเซอร์ไดโอดแสงสีเขียว ที่ช่วยให้เห็นฝุ่นขนาดเล็กชัดมากขึ้น ซึ่งตอนใช้จริง ก็ทำให้เห็นชัดจริง ๆ เพราะตามนุษย์ไวต่อแสงสีเขียว ที่ดูดฝุ่นหัวนี้เหมาะกับการใช้บนพื้นแข็ง กระเบื้อง ไม้ลามิเนต ปาร์เก้ ได้ดี
หัวดูดพื้น Direct Drive อันนี้จะเหมาะกับพวกพื้นพรมเป็นพิเศษ เพราะว่ามีแปรงไนลอนเพื่อดึงฝุ่นออกจากพรมได้ อีกทั้งตัวเครื่องดูดฝุ่นเองจะปรับแรงดูดอัตโนมัติ เมื่อเจอพื้นผิวที่ต่างกัน เช่นถ้าเราดูดบนพื้นแข็งเสียงการดูดฝุ่นจะเป็นแบบปกติ เพราะว่าบนพื้นแข็งนั้นดูดได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเลื่อนไปดูดตรงพื้นพรม Dyson V12 จะดูดแรงขึ้นแบบอัตโนมัติแทบจะทันที เนื่องจากพื้นพรมนั้นมีฝุ่นเยอะกว่า เอาออกได้ยากกว่า เครื่องดูดฝุ่นเลยปรับความแรงให้เหมาะสม
หัวดูด Hair Screw ไว้สำหรับเก็บเส้นผม หลายคนที่มีผมยาว มักจะประสบปัญหาเมื่อใช้เครื่องดูดฝุ่นรุ่นเก่า ๆ ผมจะไปพันกับแกนหรือตรงที่เก็บฝุ่น เอาออกมาได้ยาก แต่ความพิเศษของ Dyson คือไม่ว่าจะใช้หัวดูดแบบไหน จะไม่พันกับเครื่องดูดฝุ่น และยังมีหัวดูด Hair Screw สำหรับใช้งานบนเตียงและโซฟา บริเวณที่มีเส้นขนหรือเส้นผมเยอะ ๆ ใครที่ใช้เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 มั่นใจได้เลยว่าเส้นผมไม่พันกับตัวเครื่องดูดฝุ่นแน่นอน และยังเหมาะกับคนที่เลี้ยงสัตว์อีกด้วย เพราะเส้นขนของสัตว์เลี้ยงมีขนาดเล็ก หัวดูด Hair Screw ช่วยได้เยอะเลย
หัวดูดปากแคบแบบมีไฟ (Light Pipe crevice) อันนี้คือดีมากกกกกกกก เพราะว่าการออกแบบทำให้เข้าถึงซอกมุมได้ ซอกมุมที่ส่วนตัวจะได้ใช่คือซอกมุมตรงกรอบหน้าต่างและกรอบประตู เนื่องจากบ้านทั้งหลังที่อยู่อาศัยอยู่นั้นหน้าต่างและประตูมักจะเป็นบานเลื่อนอลูมิเนียม ซึ่งจะมีร่องไว้สำหรับรองรับการเลื่อนเปิดปิด แต่จรงนั้นคือจุดอับมาก ที่ไม้กวาดเข้าได้ยาก ต้องเป็นเครื่องดูดฝุ่น แต่การใช้หัวปกติก็ทำได้ยาก แต่ถ้ามีหูวดูดปากแคบ จะช่วยให้เป็นเรื่องง่าย แค่เปลี่ยนหัว กดปุ่ม ก็พร้อมใช้งาน แถมยังมีไฟส่องสว่าง เพราะว่า Dyson รู้ดีกว่าในซอกหลืบแบบนี้มักจะอยู่ในมุมมืด ไฟจะช่วยให้เราเห็นว่าสิ่งสกปรกถูกดูดออกไปหรือยังนั่นเอง
หัวดูดขนาดเล็กอย่างหัวดูดฝุ่นฝังลึก หัวดูด Combi หัวดูดแปรงขนนุ่ม ทั้ง 3 หัวดูดนี้ต่างมีหน้าที่ที่ต่างกันออกไป เช่นหัวดูดแปรงขนนุ่มหากเราต้องการจะใช้กับพื้นผิวที่เป็นรอยง่ายอย่างกระจก ใช้หัวดูดนี้ช่วยได้มาก เพราะแปรงขนนุ่มจะช่วยให้หัวดูดไม่สัมผัสโดยตรงกับพื้นผิว ทำให้ไม่เกิดรอย ส่วนหัวดูดฝุ่นฝังลึกนิยมมาก ๆ ที่จะใช้กับเบาะโซฟาผ้า ทั้งในบ้านและในรถ ส่วนหัวดูดฝุ่นฝังลึกเหมาะกับการใช้บนโซฟาผ้า ที่นอน หมอน ฝุ่นที่ฝังลึกจะถูกดูดขึ้นมา เป็นฝุ่นขนาดเล็กที่มากองกันอยู่ในถังเก็บฝุ่นจะเหมือนเป็นผงแป้ง เห็นแล้วขนลุกเลยทีเดียว ส่วนหัวดูดแบบ Combi เป็นหัวดูดแบบอเนกประสงค์สามารถนำไปใช้ได้หลายที่หลายพื้นผิว ขึ้นอยู่กับเราสะดวกมากกว่า
ที่ตั้งเครื่องดูดฝุ่นแบบไม่ต้องเจาะ ข้อต่องอสำหรับการใช้ใต้เตียง และที่แขวนเครื่องดูดฝุ่นแบบเจาะผนัง ซึ่งที่ตั้งเครื่องดูดฝุ่นแบบไม่ต้องเจาะผนัง เป็นแท่นสีขาว ประกอบง่าย ไว้แขวนและชาร์จเครื่องดูดฝุ่นได้ในตัว แต่บอกเลยว่าแอบเกะกะเล็กน้อย ส่วนข้อต่องอเราสามารถนำมาใช้กับใต้เตียงเพื่อให้ตัวเครื่องดูดฝุ่นพับได้มากขึ้น หรือเราจะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อใช้กับการดูดฝุ่นหลังตู้ที่เรามองไม่เห็นได้ด้วย ส่วนสุดท้ายคือที่แขวนเครื่องดูดฝุ่นแบบเจาะผนัง ขอบอกว่าตัวเองไม่สะดวกใช้งานแบบเจาะผนัง เพราะไม่อยากให้บ้านมีรู เลยไม่ได้ใช้เลย
รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean การใช้งาน เครื่องดูดฝุ่น ใช้ดีไหม สิ่งที่ชอบ?
การใช้งานของเครื่องดูดฝุ่น รีวิว Dyson V12 Detect Slim Total Clean ทั้งหมดนี้มาจากการใช้งานจริง รีวิวจริง ไม่มีสปอนเซอร์ใด ๆ
- หัวทำความสะอาดที่ใช้บ่อย และได้ใช้จริง
อันนี้ต้องเลยว่า หัวดูดฝุ่นของ Dyson V12 เนี่ย ไม่ใช่แค่ของเล่นเท่านั้น แต่ทุกหัวโดนคิดมาแล้ว สามารถใช้งานได้จริง สำหรับตัวเองก่อนหัวที่ใช้งานบ่อยที่สุดคงจะหนีไม่พ้น หัวเลเซอร์สลิมฟลัพฟี่ (Laser Slim Fluffy Cleaner Head) ใช้เป็นหัวหลักเลยก็ว่าได้ เนื่องจากบ้านที่อยู่นั้นจะเป็นพื้นแข็งเกือบทั้งหมด ไม่มีพรมเลย และมีแต่เสื่อไว้สำหรับตกแต่งที่พื้นบ้าง เพราะส่วนตัวคิดว่าพรมอมฝุ่น และทำความสะอาดยากเกินไป ทำให้หัวเลเซอร์สลิมฟลัพฟี่นั้น เป็นหัวดูดฝุ่นโปรดของผู้เขียนเลยทีเดียว เข้าได้ในที่แคบ และการหมุนหัวขยับซ้ายขวาหน้าหลังมีความเป็นอิสระสูง และยังมีแสงเลเซอร์สีเขียว ที่จะช่วยให้เห็นฝุ่นขนาดเล็กได้ง่ายอีก ทำให้เรามองเห็นว่าพื้นผิวตรงนั้นสะอาดหรือยังด้วย
หัวโปรดถัดมาคือ หัวดูดปากแคบแบบมีไฟ (Light Pipe crevice) เข้าได้ทุกซอกจริง ๆ เพราะว่าบ้านมีกรอบร่องประตูหน้าต่างบานเลื่อน ฝุ่นจะไปกองอยู่ตรงนั้นเยอะมาก รวมไปถึงขี้จิ้งจก แถมจะมืดแค่ไหนก็ไม่กลัว มีไฟแถมให้ด้วย เพราะที่แคบ ๆ มักจะตามมากับที่มืด Dyson V12 คิดมาให้เรียบร้อยแล้ว
สุดท้ายเป็นหัวที่ใช้บ่อยสำหรับเตียง ที่นอน โซฟา และเบาะในรถ นั่นคือหัวดูด Hair Screw ไว้สำหรับเก็บเส้นผมเรื่องเส้นผมเครื่องดูฝุ่นสามารถทำงานได้ดีอยู่แล้ว ไม่พันหัวดูดและที่เก็บ แต่สิ่งที่ต้องชมอีกอย่างคือดูดฝุ่นที่เป็นอณูเล็ก ๆ ในถังที่เก็บฝุ่นจะเห็นเลยว่าเป็นเหมือนผงฝุ่นที่ลักษณะคล้ายแป้งแต่สีคล้ำ ๆ ดำ ๆ เต็มไปหมด ที่นอนที่ว่าสะอาดเพราะมองด้วยตาเปล่า แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย Dyson V12 จึงขจัดฝุ่นขนาดเล็กได้ดีมาก ๆ ด้วยเช่นกัน - ระยะเวลาการดูดฝุ่น และประสิทธิภาพการดูดฝุ่น
ระยะเวลาการดูดฝุ่น ต้องบอกก่อนว่า รีวิว Dyson V12 มี 3 โหมดด้วยกัน คือ Eco, Auto และ Boost เริ่มจากการชาร์จ 100% โหมด Eco จะสามารถใช้งานได้ราว 62 นาที โหมด Auto ทำงานต่อเนื่องราว 35 นาที และสุดท้ายโหมด Boost 10 นาที ซึ่งถ้าเราทำความสะอาดบ้านโดยการดูดฝุ่นบนพื้นผิวทั่วไปบนพื้น โหมด Eco นี่ก็เหลือเฟือมาก ๆ แล้ว ที่จะทำความสะอาดได้ทั้งบ้าน (บ้านผู้เขียนเองขนาดไม่ใหญ่มาก ประมาณ 120 ตารางเมตรเท่านั้น ดูดฝุ่นทุกห้องครึ่งชั่วโมงก็เสร็จแล้ว) ส่วนโหมด Med เหมาะกับพวกพื้นพรม หรือฝุ่นที่อยู่ในซอกหลืบต่าง ๆ ครึ่งชั่วโมงก็นับว่าใช้งานได้นานมาก แต่ถ้าเป็นโหมด Boost เหมาะกับการใช้บนพวกพื้นผิวผ้าเช่น โซฟาผ้า เตียง เบาะนั่งรถ จะดึงฝุ่นผงแป้งที่มีขนาดเล็กออกจากผ้าได้เลย ซึ่งโดยปกติเราก็ม่น่าจะใช้เกิน 10 นาที ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพียงพอสำหรับแบตเตอรี่ที่ให้มาเมื่อชาร์จเต็มใน 1 ครั้ง
แต่ถ้าใครอยากจะใช้นานกว่านั้น Dyson V12 ก็จะมีเซ็ตที่เพิ่มราคาของแบตเตอรี่อีก 1 ก้อน ไว้สำหรับสับเปลี่ยนเพื่อใช้งานอย่างต่อเนื่องได้เลย แต่ก็ต้องแลกมากับการที่ราคาสูงขึ้นด้วย
- การเทที่เก็บฝุ่นสะดวก มือไม่เปื้อน และทำความสะอาดชิ้นส่วนต่าง ๆ
สิ่งที่ชอบต่อมาคือที่ถังเก็บฝุ่น การเทใช้งานง่ายมาก ๆ เพียงแค่ถอดหัวดูดออก จากนั้นให้ดันสลักสีแดงตรงที่เก็บฝุ่นออก โดยคว่ำที่เก็บฝุ่นลงในถังขยะ จากนั้นที่เก็บฝุ่นจะถูกเปิดออกมา ฝุ่นทั้งหมดจะถูกเทลงถังขยะอย่างง่ายดาย เรียกได้ว่าเป็นการเทฝุ่นโดยไม่ต้องสัมผัสกับฝุ่นโดยตรง ด้านในที่เก็บฝุ่นก็จะมีส่วนที่เป็นยางวงแหวนที่จะช่วยรูดฝุ่นออกมาได้ด้วย
ส่วนการทำความสะอาดชิ้นส่วนนั้นก็สามารถทำได้ซึ่งถ้าเป็นชิ้นส่วนโดยทั่วไปแนะนำให้ใช้ผ้าแห้งเช็ด แต่ส่วนที่เป็นหัวดูดที่เป็นตระกูลลูกกลิ้งต่าง ๆ สามารถถอดตัวลูกกลิ้งออกมาทำความสะอาดได้เลย และส่วนที่เป็นตัวกรองที่ให้อากาศบริสุทธิ์ออกมา ซึ่ง Dyson บอกว่าดักจับอนุภาคขนาดเล็กสูงสุดได้ถึง 0.3 ไมครอน 99.99% ก็สามารถถอดไส้กรองล้างได้เช่นกัน โดยถ้านำชิ้นส่วนมาล้าง ให้ทิ้งไว้ก่อน 24 ชั่วโมง และต้องมั่นใจว่าแห้งสนิทแล้วจริง ๆ - แสงสีเขียวไดโอด ช่วยให้มองเห็นฝุ่นง่ายขึ้นได้จริง พร้อมทั้งมีหน้าจอบอกปริมาณฝุ่นแสดงผลใช้ง่าย
อันนี้ตอนแรกคิดว่าเป็นแค่ลูกเล่น เหมือนใส่ให้เป็นฟีเจอร์เพื่อความน่าตื่นตาตื่นใจเฉย ๆ แต่พอได้ลองใช้จริง ๆ หัวเลเซอร์สีเขียวมันมีประโยชน์จริง ๆ เพราะเราจะเห็นฝุ่นขนาดเล็กได้ทันที ถ้าเราใช้แสงสีขาว หรือดูด้วยตาเปล่าไม่พึ่งแสงเลเซอร์ ก็อาจจะมองว่าพื้นสะอาดดี แต่พอเปิดแสงเลเซอร์สีเขียวปุ๊บ โอ้โหฝุ่นเพียบ พอได้ไถไปนิดเดียวฝุ่นก็จะหายไปเกือบทั้งหมด เป็นนวัตกรรมที่ทำให้เรามองเห็นฝุ่นได้ง่ายขึ้น
ส่วนหน้าจอและปุ่มกดใช้งานง่าย ตัวหน้าจอแสดงผล ก็จะมีแจ้งปริมาณฝุ่นที่เราดูดเข้าไป ขนาดเล็กที่ >10 μm เป็นอนุภาคขนาดเล็กอย่างละอองเกสรดอกไม้ ต่อมาเป็นขนาด >60 μm เช่นพวกเชื้อราและเศษผิวหนังขนาดเล็ก >180 μm ก็จะเป็นทรายละเอียดและไรฝุ่นต่าง ๆ สุดท้ายคือ >500 μm ที่เป็นขนาดใหญ่มองเห็นด้วยตาเปล่า เช่นพวกน้ำตาลทราย เห็บหมัด ทั้งหมดนี้จะมีตัวเลขขึ้นมาไว้เราดูดฝุ่นไปเป็นปริมาณเท่าไรแล้ว บางทีเห็นตัวเลขแล้วแอบขนลุกเหมือนกันนะ
สิ่งที่ควรพิจารณาก่อนซื้อ เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean
- ราคา และน้ำหนัก
ราคาเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean เรียกได้ว่าราคาโดดมาก เหนือจากเครื่องดูดฝุ่นโดยทั่วไป ถ้าเป็นรุ่น Total Clean ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 27,500 บาท ซึ่งถือว่าสูงเอาเรื่อง แต่ถ้าเป็นรุ่น Dyson V12 Detect Slim Fluffy ซึ่งจะถูกตัดหัวดูดออกไปบางอย่าง จะอยู่ที่ 24,090 บาท ซึ่งรุ่นนี้แตกต่างกันแค่สีและหัดดูดที่น้อยลง แต่ประสิทธิภาพเท่ากัน
ส่วนเรื่องน้ำหนัก ตัวเครื่องจะอยู่ที่ 2.2 กิโลกรัม แต่ถ้าต่อหัวดูดแน่นอนว่าต้องมากกว่านั้น และมีน้ำหักเบากว่าเครื่องดูดฝุ่น Dyson V11 ที่มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.97 กิโลกรัม ซึ่งตอนใช้งานจริงที่เราแนบไปกับพื้นแน่นอนว่ามันก็เบา ใช้งานได้ง่าย แต่ถ้ายกขึ้นมาเมื่อไร และใช้เป็นเวลานานละก็ กล้ามแขนอาจจะขึ้นได้เลย ซึ่งส่วนตัวเจอปัญหานี้เมื่อต้องใช้กับหัวดูดฝุ่นขนาดเล็ก ยกขึ้นยกลงในบริเวณเตียง โซฟา กรอบประตูหน้าต่าง ใช้ไปนาน ๆ ก็มีเมื่อยเหมือนกัน
สำหรับขนาดความยาว เมื่อต่อท่อดูดแล้วเนี่ย ส่วนตัวไม่มีปัญหาถือว่าเหมาะสม แต่ทว่าผู้เขียวเองส่วนสูง 190 เซนติเมตร แต่ถ้าลองจินตนาการถึงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เป็นคนใช้งาน แน่นอนว่าความสูงอาจจะไม่พอดีเท่าไร เพราะท่อที่เป็นข้อต่อไม่สามารถปรับความยาวได้ ดังนั้นคนไหนที่จะลองว่าใช้งานแล้วจะโอเคไหมกับขนาด แนะนำให้ไปลองที่ Dyson Demo ก่อน ส่วนมากมีให้ลองที่เซ็นทรัลฝั่งดีพาร์ทเมนต์สโตร์ หรือ Power Buy ว่าใช้งานจริงถนัดหรือไม่ - หัวดูดและอุปกรณ์เสริมบางอย่างเกินความจำเป็น
สำหรับการซื้อ เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ในราคา 28,500 บาท คุณก็จะได้หัวดูดฝุ่นมาเยอะมาก ถึง 7 หัวด้วยกัน พร้อมทั้งอุปกรณ์เสริมอื่น ๆ เช่นขาตั้งแบบไม่ต้องเจาะ ซึ่งในความเป็นจริงใช้หมดไหม? ส่วนตัวคือใช้ไม่หมด ที่บ้านไม่มีพรม ก็ที่ไม่จำเป็นต้องใช้หัวดูดพรม ใครที่สามารถเจาะผนังได้ ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ตัวขาตั้งพื้น ถ้าต้องการใช้แค่ตัวพื้นฐานแนะนำว่าซื้อเครื่องดูด Dyson V12 Detect Slim Fluffy ดีกว่าได้หัวน้อยลง ตัดอุปกรณ์เสริมบางอย่างออกไป เหลือราคาเพียงแค่ 24,090 บาท - ชาร์จไปใช้ไปไม่ได้
เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ถูกออกแบบมาให้เป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย เป็นหลัก ใครที่ใช้เครื่องดูดฝุ่นมีสายมาก่อนก็จะรู้สึกถึงความเกะกะของสาย แต่ทว่า Dyson V12 Detect Slim ถ้าหากกำลังชาร์จอยู่ จะไม่สามารถใช้งานได้ ปุ่มสตาร์ทเครื่องจะไม่ทำงาน ดูได้แต่เพียงสถานะแบตเตอรี่ คุณจะต้องถอดสายชาร์จออกก่อนถึงจะใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งถ้าต้องการทำความสะอาดอย่างต่อเนื่องอาจต้องซื้อแบตเตอรี่มาเสริมในราคาแยกต่างหากที่ 4,200 บาท หรือถ้าต้องการซื้อแบบครั้งแรกจัดเต็มจะเป็นเซ็ต Dyson V12 Detect Slim Absolute Extra ที่เหมือน Total Clean เป๊ะทุกอย่างแต่มีแบตเตอรี่มาให้ถึง 2 ก้อน ในราคา 31,500 บาท - ไม่สามารถดูดของเหลวได้
ด้วยนวัตกรรมของเครื่องดูดฝุ่นในยุคปัจจุบัน มีหลายแบรนด์มากที่สามารถดูดของเหลวได้ บางยี่ห้อบางรุ่นเป็นแบบ 2 in 1 สามารถดูดฝุ่นและถูกพื้นไปได้อย่างพร้อมกัน แต่เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 ทำได้เพียงดูดฝุ่นเท่านั้น ไม่สามารถใช้งานกับของเหลวได้ มิฉะนั้นเครื่องอาจชำรุดได้ แต่เครื่องดูดฝุ่นเมื่อเราใช้บ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ความถี่การถูพื้นน้อยครั้งลง เพราะฝุ่นจะไม่ค่อยเหนียวจนเป็นคราบเกาะพื้นนั้น แต่อย่าลืมว่าการถูพื้นก็ยังจำเป็นอยู่ดี
ราคา Dyson V12 Detect Slim Total Clean เท่าไร
เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim มีทั้งหมด 4 รุ่น
- Dyson V12 Detect Slim Fluffy ราคา 24,090 บาท
มีหัวดูดทั้งหมด 5 หัวด้วยกัน หัวเลเซอร์สลิมฟลัพฟี่ หัวดูดเก็บเส้นผม หัวดูด 2 in 1 หัวดูดปากแคบพร้อมไฟส่อง และแปรงปัดฝุ่นขนนุ่มขนาดเล็ก มีอุปกรณ์เสริมอีก 5 ชิ้น แบตเตอรี่ 1 ก้อน ข้อต่องอ คลิปหนีบท่อดูดฝุ่น แท่นวางแบบติดผนัง และที่ชาร์จ - Dyson V12 Detect Slim Total Clean ราคา 27,500 บาท
ได้เหมือนกับรุ่น Fluffy (ต่างกันแค่สี) ส่วนอุปกรณ์เสริมจะได้เพิ่ม หัวดูดทำความสะอาด Direct Drive และแปรงดูดฝุ่นฝังแน่น รวมเป็นได้หัวดูด 7 หัว อุปกรณ์เสริมอีก 5 ชิ้น - Dyson V12 Detect Slim Total Clean แบบแถมแท่นวางตั้งพื้น Floor Dock ราคา 28,500 บาท
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย รุ่นนี้พิเศษตรงแถมแท่นวางที่ตั้งพื้น แบบไม่ต้องเจาะเพิ่มขึ้น - Dyson V12 Detect Slim Absolute Extra ราคา 31,500 บาท
รุ่นนี้แถมแท่นวางที่ตั้งพื้นแบบไม่ต้องเจาะ รวมไปถึงแบตเตอรี่สำรองอีก 1 ก้อนไว้ใช้สับเปลี่ยนกัน รวมเป็นแบตเตอรี่ 2 ก้อน
เครื่องดูดฝุ่น ไดสัน Dyson V12 Detect Slim Total Clean หาซื้อได้ที่ไหน มีรับประกันหรือไม่
ถ้าเป็นช่องทางออฟไลน์ แนะนำว่าให้ไปทดลองใช้ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย หรือจับกันก่อนได้ทั้งที่ Central ฝั่ง Department Store หรือ Power Buy แต่ถ้าเป็นออนไลน์ สามารถซื้อที่มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ได้ที่ LazMall จาก Lazada, Shopee Mall, Central Online, Power Buy, JD Central และที่เว็บไซต์ของ Dyson เอง
ซึ่งส่วนตัวซื้อเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean จากที่ Lazada LazMall ซึ่งราคาเต็มอยู่ที่ 28,500 บาท เป็นรุ่นที่แถม Floor Dock แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงเซลล์วันเกิดของ Lazada พอดี จึงได้รับส่วนลดเป็นราคาพิเศษ พร้อมใช้โค้ดของบัตรเครดิต ทำให้เหลือเพียง 26,070 บาท พร้อมรับเครดิตเงินคืนจากโปรโมชันบัตรเครดิต ttb ช่วงนั้นพอดีอีก 1,000 บาท เรียกได้ว่าคุ้มมากกกกกกกกก
ส่วนเรื่องการรับประกันนั้น ผลิตภัณฑ์ Dyson ของแท้ที่จำหน่ายในประเทศไทยทั้งหมด มีผู้จัดจำหน่ายแต่เพียงผู้เดียวคือ เซ็นทรัลเทรดดิ้ง จำกัด ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องประกันแต่อย่างใด ซึ่งเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson มีการรับประกันที่ 2 ปี แต่ถ้าซื้อเว็บไซต์กับ Dyson โดยตรงจะรับการประกันเพิ่มขึ้นเป็นที่ 3 ปีเลยทีเดียว
สรุปเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ดีไหม และเหมาะกับใคร
รีวิว เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ตอบได้เลยว่าดีมากในฐานะ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย สามารถใช้งานได้นาน ทำให้การดูดฝุ่นง่ายขึ้น อีกทั้งยังมีนวัตกรรมต่าง ๆ เช่นแสงเลเซอร์สีเขียวทำให้เห็นฝุ่นได้ชัดเจนมากขึ้น หัวดูดฝุ่นสามารถเลือกใช้งานได้ตามพื้นที่ที่เราใช้งาน ประสิทธิภาพการใช้งานสามารถปรับความแรงได้ 3 ระดับ เหมาะกับการใช้งานตามพื้นผิวต่าง ๆ ได้
รีวิว เครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ไดสัน เหมาะกับผู้ที่มีกำลังซื้อสักหน่อย เพราะว่าด้วยข้อกำจัดเรื่องราคาที่สูงกว่าเครื่องดูดฝุ่นอื่นพอสมควร คนที่เบื่อกับการทำความสะอาดบ้านด้วยไม้กวาด หรือไม่ชอบเครื่องดูดฝุ่นแบบมีสาย และเหมาะกับคนที่ทำความสะอาดในที่ที่มีข้อจำกัดสักหน่อยในซอกหลืบ พื้นแข็ง พื้นพรม หรือบนโซฟาต่าง ๆ เพราะว่ามีหัวดูดที่หลากหลาย พ่อบ้านแม่บ้านยุคใหม่แน่นอนว่าควรจะมีเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 Detect Slim Total Clean ติดบ้านไว้
ราคาเครื่องดูดฝุ่น Dyson V12 อยู่ที่ 24,090-31,500 บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น
เป็น เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย