รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ อีกระดับของความพรีเมียม เรียกได้สิทธิประโยชน์จัดเต็มอัดแน่น ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ขาช้อป เพราะได้คะแนนสูงสุดที่ 4 เท่า ได้เงินคืน 5% กับซุปเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการ แลกรับเครดิตเงินคืน 15% กับห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ ฯลฯ
สำหรับใครที่พอจะรู้ข่าวมาสักพักแล้วว่า Citi ในประเทศไทยได้ขายกิจการฝั่งธุรกิจที่เป็นบุคคลทั้งหมดให้กับ UOB ซึ่งต้องบอกเลยว่า Citi เป็นหนึ่งในธนาคารที่ทำบัตรเครดิตได้ออกมาดีมาก สิทธิประโยชน์ค่อนข้างสูงตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี ซึ่ง UOB ได้ซื้อกิจการ Citi ไป ทำให้ UOB จำเป็นที่จะต้องออกบัตรที่มีสิทธิประโยชน์ใกล้เคียงกับ Citi Premier ออกมา นั่นคือ UOB Premier
เรียกได้ว่า UOB Premier และ Citi Premier เป็นฝาแฝดของกันและกัน ราวกับเอื้อย-อ้าย กาสะลอง-ซ้องปีบ มุตตา-มุนินทร์ กันเลยทีเดียว แต่ถึงจะเหมือนกันมากขนาดไหน แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่เล็กน้อยบ้าง เราลองไปดูสิทธิประโยชน์ของ UOB Premier โดยรวมกัน
รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ บัตรเครดิตคนติดห้างต้องมี
- รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ในด้านของรูปลักษณ์ ความสวยงาม
- รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ในด้านสิทธิประโยชน์
- จุดที่ควรพิจารณาของบัตรเครดิต UOB Premier
- ความแตกต่างระหว่าง UOB Premier และ Citi Premier ในด้านสิทธิประโยชน์
- ค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิต UOB Premier
- คุณสมบัติผู้สมัคร UOB Premier
- สรุป รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ดีไหม เหมาะกับใคร?
รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ในด้านของรูปลักษณ์ ความสวยงาม
ด้านหน้าของบัตรเป็นลักษณะสีเงินเทา ภาพพื้นหลังมีลายแพทเทิร์นแบบโค้งมน ทำให้รูปลักษณ์ของบัตรดูหรูหรามากขึ้น โดยซ้ายมือด้านบนมีโลโก้ของ UOB สีขาวอยู่ ตรงกลางของบัตรนั้น มีการใส่คำว่า Premier ที่เป็นชื่อของบัตรลงไปด้วย โดยตัว P เป็นลักษณะของตัวเขียน ด้านขวามือล่างจะเป็นโลโก้ของ Mastercard ทำให้บัตรเครดิต UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ เป็นบัตรที่ให้ภาพลักษณ์ดูหรูหรา ดูแพงขึ้นไปอีกขั้น
รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ในด้านสิทธิประโยชน์
สำหรับใครที่คุ้นกับสิทธิประโยชน์ของ Citi Premier มาแล้ว เรียกได้ว่า UOB Premier ก็แทบจะไม่แตกต่างกันเลย เช่น
- รับคะแนนสะสมสูงสุดที่ 4 เท่า เมื่อใช้จ่ายในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษี
ใครที่ชอบช้อปที่ห้างสรรพค้าและร้านค้าปลอดภาษีต้องปลื้มแน่นอน เพราะได้รับคะแนนถึง 4 เท่า จากปกติ ภายใต้ MCC Code 5311, 5309 สายเปย์ในห้างเรียกว่าคุ้มมาก ๆ ซึ่งโดยปกติของ คะแนน UOB Premier
- รับคะแนนสะสม 2 เท่า ทุกการใช้จ่ายในประเทศ และสกุลเงินตราต่างประเทศ
เรียกว่าเป็นบัตรเครดิตที่คุ้มมาก เพราะทุกการใช้จ่ายในประเทศไทย และการใช้บัตรที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศ ก็จะได้รับคะแนนสะสม 2 เท่า ไป อีก เรียกได้ว่าคะแนนกองกันเยอะมาก ๆ แต่ถ้าใช้ในห้างสรรพสินค้าและร้านค้าปลอดภาษี อันนี้ก็จะได้คะแนนสูงสุดที่ 4 เท่า เท่านั้น ไม่สามารถรับคะแนน 2 เท่าจากตรงนี้ได้อีก
- สายช้อปในซูเปอร์มาร์เก็ตต้องว้าว เพราะคืนเงินที่ 5% กับร้านค้าที่ร่วมรายการ
สำหรับการใช้จ่ายตั้งแต่ 800 บาท/เซลล์สลิป ขึ้นไป รับเงินคืนที่ 5% กับซูเปอร์มาร์เก็ตที่ร่วมรายการอย่าง Central Food Hall, Tops Supermarket, Gourmet Market, Home Fresh Mart, Villa Market และ Foodland Supermarket โดยจำกัดเงินคืนสูงสุดอยู่ที่ 500 บาท / เดือน / ผู้ถือบัตร รวมทุกซูเปอร์มาร์เก็ต
- แลกรับเครดิตเงินคืนที่ 15% ที่สำหรับห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
ได้แต้ม x 4 เท่ายังไม่พอรับกันจุใจเพิ่ม แลกรับเครดิตเงินคืน 15% สำหรับการช้อปที่ห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ เอ็มโพเรียม เอ็มควอเทียร์ และเซ็นทรัลทุกสาขา โดยเมื่อมียอดใช้จ่ายผ่านบัตรทุก ๆ 1,000 บาท / เซลล์สลิป จะใช้คะแนน UOB Rewards Plus ยูโอบีรีวอร์ดพลัส 1,000 คะแนน โดยสามารถแลกได้สูงสุดที่ 50,000 คะแนน รับเครดิตเงินคืน 7,500 บาท / ผู้ถือบัตร / รวมทุกห้างสรรพสินค้าที่ร่วมรายการ
- แบ่งจ่าย 0% นาน 3 เดือนสำหรับการใช้จ่ายในหมวดแฟชั่น
การใช้จ่ายตั้งแต่ 10,000 – 200,000 บาท ต่อเซลล์สลิป สามารถแบ่งจ่ายได้นาน 3 เดือน แบบ 0% ไม่มีดอกเบี้ย เฉพาะการใช้จ่ายในหมวดสินค้าแฟชั่นในหมวด MCC Code 5611, 5621, 5631, 5651, 5661, 5681, 5691, 5699, 5948, 5999 และ 5309 โดยจำกัดการทำรายการ 1 ครั้ง ต่อ 1 เดือน ต่อผู้ถือบัตร โดยต้องส่ง SMS เพื่อทำรายการก่อนตัดรอบบิล
- รับเครื่องดื่มฟรีกับร้านค้า คาเฟ่ที่ร่วมรายการ เดือนละ 1 แก้ว
โดยผู้ถือบัตรสามารถรับเครื่องดื่มฟรีได้ที่ร้านค้าที่ร่วมรายการอย่าง CPS Coffee, Dean & Deluca, Paul, TWG, PacamaraCoffee, Cafe Kitsune และ %Arabica โดยจำกัดอยุ่ที่ 6,000 สิทธิ์/เดือน เฉพาะเครื่องดื่มที่ร่วมรายการ โดยจำกัด 1 แก้ว/ผู้ถือบัตร (รวมบัตรหลักและบัตรเสริม)/เดือน/รวมทุกร้านค้า บอกเลยว่าสิทธิ์นี้ใช้ได้จริง แต่ว่าหมดเร็วมาก ไม่เกินวันที่ 5 ของเดือนสิทธิ์ก็แทบจะเต็มทั้งหมดแล้ว
- ใช้ Miracle Lounge ที่สุววรณภูมิได้ 2 ครั้ง/ปี
การใช้ห้องพักรับรองที่ Miracle Lounge ฟรี 2 ครั้ง/ปี รวมทั้งบัตรหลักและบัตรเสริม ได้ทั้งการบินในประเทศและบินระหว่างประเทศ
- รับ Priority Pass เมื่อมียอดการใช้งานผ่านบัตร 1 ล้านบาทขึ้นไป ต่อปีปฏิทิน
รับบัตร Priority Pass เมื่อมีการใช้งานบัตร UOB Premier ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไปภายในปีปฏิทิน โดย Priority Pass มีอายุการใช้งานนาน 1 ปี
- คะแนนจาก UOB Premier ในปัจจุบัน ไม่มีหมดอายุแล้ว
สำหรับใครที่เคยติดภาพจำว่าคะแนนของบัตร UOB จะมีอายุแค่ 2 ปีเท่านั้น แต่สำหรับใบนี้เรียกได้ว่าไม่ใช่อีกต่อไป เพราะคะแนนที่ได้รับตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ที่ผ่านมาจะไม่มีวันหมดอายุอีกต่อไป (แต่ว่าคะแนนที่ได้ก่อนหน้านั้น จะยังคงมีวันหมดอายุอยู่ ดังนั้นรีบใช้คะแนนกันด้วยสำหรับคนที่ได้คะแนนมาก่อนหน้า 1 มกราคม 2567)
- บริการที่จอดรถพิเศษในห้างสรรพสินค้า
บัตรนี้ได้เพิ่มสิทธิพิเศษ โดยการมอบที่จอดรถที่ศูนย์การค้า เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน เดอะมอลล์ บางแค เดอะมอลล์ ท่าพระ และ เซ็นทรัลเวิลด์
จุดที่ควรพิจารณาของบัตรเครดิต UOB Premier
- การแลกคะแนนเพื่อใช้ได้เครดิตเงินคืน 15% ที่ห้าง มีขั้นตอนที่ยากขึ้น เพราะต้องลงทะเบียนทุกครั้งที่ทำรายการ
ถ้าเป็นบัตรฝาแฝดอย่าง Citi Premier นั้น แค่แจ้งพนักงานว่าจะใช้คะแนน พนักงานก็จะทำรายการให้เลย โดยที่เราไม่ต้องลงทะเบียนแต่อย่างใด และลดไปเลยที่ 15% แต่ถ้าเป็น UOB Premier นั้นจำเป็นที่จะต้องลงทะเบียนทุกครั้ง (ย้ำว่าทุกครั้งที่จะทำรายการ) โดยการส่ง SMS ไป และการแลกคะแนนต้องเป็นยอดใช้จ่ายในทุก ๆ 1,000 บาท ซึ่งจะใช้คะแนน UOB Rewards ทุก 1,000 คะแนน นั่นหมายความว่าเศษที่หารด้วย 1,000 ไม่ลงตัวก็จะไม่สามารถใช้คะแนนแลกได้ นับว่าเป็นข้อจำกัดที่มากกว่าทาง Citi Premier และกว่าจะได้เครดิตเงินคืนก็ใช้เวลาพอสมควร - สิทธิ์เครื่องดื่มฟรี หมดเร็วมาก
อันนี้คือเรื่องจริงเลยว่าหมดเร็วเกิน ส่วนมากสิทธิจะใช้ได้แค่ช่วงต้นเดือนเท่านั้น ประมาณหลังจากวันที่ 5 เรียกได้ว่ามีโอกาสสูงมากที่จะเต็ม และอย่าลืมช่วงนี้ยังไม่ได้โอนจากบัตร Citi Premier มา ในอนาคต UOB Premier มีคนถือเยอะขึ้น รับโอนมาจาก Citi มากขึ้น การใช้สิทธิ์กาแฟฟรีก็จะหมดเร็วขึ้นไปอีก
ความแตกต่างระหว่าง UOB Premier และ Citi Premier ในด้านสิทธิประโยชน์
สำหรับใครที่มีบัตรเครดิต Citi Premier อยู่แล้ว อยากรู้ว่าบัตรที่เรามีอยู่กับ UOB Premier บัตรใหม่นี้แตกต่างกันอย่างไร ถึงจะเหมือนกันแค่ไหนก็มีความแตกต่างกันอยู่บ้าง เช่น
- การแลกรับเครดิตเงินคืน 15% Citi Premier ใช้ได้แบบไม่มีขั้นต่ำ UOB Premier มีขั้นต่ำ 1,000 บาท/เซลล์สลิป
อันนี้จากใจคนที่ใช้งาน Citi Premier มานานพอสมควร เพราะชอบโปรโมชั่นนี้มาก สามารถสิทธิแลกรับเครดิตเงินคืน 15% ใช้ได้เลยที่เคานท์เตอร์ชำระเงินในเครือห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัล และเครือเดอะมอลล์ และไม่มีขั้นต่ำ ไม่ว่าจะช้อปเท่าไรก็สามารถใช้แต้มเท่ามูลค่าสินค้าได้เลย แต่พมาเป็น UOB Premier ต้องมีขั้นต่ำที่ 1,000 บาท ต่อเซลล์สลิป แถมยังต้องส่ง SMS อีก ทำให้ใช้งานแลกแต้มรับเงินคืน 15% ทำได้ยากขึ้น - Citi Premier มีรับเครดิตเงินคืน 3% ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ และ สิทธิ์ซื้อตั๋วหนัง 69 บาท แต่ UOB Premier ไม่มี
เป็นที่น่าเสียดายมาก สิ่งที่ Citi Premier มีรับเครดิตเงินคืน 3% ที่ปั๊มน้ำมันเชลล์ และสิทธิ์ซื้อตั๋วหนัง 69 บาท ที่โรงหนังเครือ SF แต่ทว่า UOB Premier ไม่มีสิทธิ์ทั้งสองอย่างนี้อีกแล้ว ใครที่ชอบดูหนังและเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ก็คงต้องผิดหวังไปตาม ๆ กับ
ค่าธรรมเนียมของบัตรเครดิต UOB Premier
- ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี ปีแรก
- ค่าธรรมเนียมรายปีปีต่อไป 5,000 บาท (ยกเว้นอัตโนมัติเมื่อมีการใช้จ่ายบัตร 300,000 บาทขึ้นไปต่อปี)
คุณสมบัติผู้สมัคร UOB Premier
- อายุ 20-80 ปี
- รายได้ 30,000 บาท/เดือน ขึ้นไป
- สำหรับพนักงานประจำ อายุงาน 4 เดือนขึ้นไป
สรุป รีวิว UOB Premier ยูโอบี พรีเมียร์ ดีไหม เหมาะกับใคร?
เหมาะมากกับสายช้อปในห้าง เพราะว่าได้คะแนน 4 เท่า รวมถึงการใช้งานทั่วไปก็ได้คะแนน 2 เท่า ปั่นคะแนนเร็ว และคะแนนก็นำไปเป็นเงินคืนได้อีก 15% เรียกว่าเป็นบัตรเครดิตที่ตอบโจทย์คนติดห้างมาก และพิเศษไปอีกที่ว่าคะแนนของบัตรเครดิต UOB Premier ก็ไม่มีวันหมดอายุแล้ว ก็สามารถสะสมคะแนนไว้ได้ยาวนานขึ้น น่าจะเรียกได้ว่าเป็นบัตรเครดิตสายห้างที่ตอบโจทย์ใครหลายคนมากทีเดียว