รีวิวบัตรเครดิต UOB YOLO Platinum ยูโอบี โยโล่ ต้องบอกก่อนว่าบัตรเครดิต YOLO Platinum ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์คนชอบกิน เที่ยว ดื่ม ตามคอนเซ็ปต์ของ You Only Live Once (YOLO) ตอบโจทย์ของกลุ่มมิลเลนเนียล ซึ่งบัตรนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2560 ซึ่งมีการปรับปรุงและพัฒนาสิทธิประโยชน์ขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย ลองมาดูกันดีกว่าว่าตอนนี้บัตรเครดิต UOB YOLO Platinum สิทธิพิเศษเป็นอย่างไรกันบ้าง
*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนเต็มจำนวนได้ตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี
เลือกอ่านหัวข้อที่ต้องการ
รีวิวบัตรเครดิต UOB YOLO Platinum ในด้านของการดีไซน์

หน้าบัตรออกแบบลายลักษณะคล้ายคริสตัล สีน้ำเงินอ่อนจากด้านบน ค่อยๆ ไล่ไปยังน้ำเงินเข้มด้านล่าง โลโก้ UOB อยู่ทางซ้ายมือบน ทางขวาล่างเป็นโลโก้ Visa Platinum ส่วนด้านซ้ายล่างจะเป็นชื่อของผู้ถือบัตร ซึ่งจุดเด่นของบัตรในนี้คือเลขบัตร 16 หลักจะถูกจัดเรียงแบบ 4-4-4-4 ไล่จากด้านบนลงมาด้านล้าง ซึ่งแตกต่างจากบัตรเครดิตใบอื่น และมีเลขเดือนปีที่หมดอายุ รวมไปถึง CVV ก็อยู่ด้านหน้าด้วยเช่นกัน ซึ่งเหมาะมากกับการช้อปปิ้งออนไลน์ เพราะเรามองหน้าบัตร ไม่ต้องพลิกไปพลิกมา ก็จะกรอกเพื่อซื้อของออนไลน์กันได้ง่ายขึ้น
ส่วนด้านหลังเป็นสีดำล้วน แถบรูดบัตรมีลวดลายของพอลก้าดอต ช่องเซ็นลายเซ็นเป็นสีเทา และมีรูปนกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ Visa
หลังจากที่ใช้บัตรนี้มาหลายปี พวกเลขหน้าบัตร และชื่อ บอกเลยว่าแทบจะไม่ลบเลือน เข้าใจว่าเป็นการสลักหรือพิมพ์ด้วยวิธีพิเศษ ไม่นูน เรียบไปกับบัตร แต่ที่หลุดลอกออกไปก่อนเพื่อนนั่นคือโลโก้ของ UOB ไปไวมาก เลือนค่อนข้างเร็ว แต่ภาพรวมการดีไซน์ออกมาดูทันสมัย น่าจะเหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย (มั่นใจว่าอายุผู้เขียนก็น่าจะยังอยู่ในกลุ่มเป้าหมายอยู่ ฮ่า)
จุดเด่นของบัตรเครดิต ยูโอบี โยโล่ แพลตตินัม

- รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 15%* ในร้านค้ายอดนิยม
ร้านค้าที่เข้าร่วมเช่น รถไฟฟ้า MRT, 7-11, All online by 7-Eleven ร้านบูทส์ ร้านวัตสัน ร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ เบอร์เกอร์ คิง Shopee Grab และ Atome ที่เข้าร่วมได้รับเงินคือระดับ 15% เลยทีเดียว แต่ว่าก็มีการจำกัดยอดเงินคืนที่จะได้รับ คือเงินคืนเข้าบัญชีบัตรเครดิตไม่เกิน 200 บาท/รอบบัญชี/ผู้ถือบัตรหลัก 1 ราย และยังต้องมีการใช้จ่ายครบ 5 ครั้งขึ้นไปต่อเดือน ครั้งละ 300 บาทขึ้นไป ถึงจะรับสิทธิ์เครดิตเงินคืน 15% ได้ มิฉะนั้นจะถือว่าได้รับเครดิตเงินคืนเพียง 1% เท่านั้น - รับเครดิตเงินคืน 1%* สำหรับการใช้จ่ายอื่น ๆ
การใช้จ่ายอื่น ๆ รับเงินคืน 1% ยกเว้นหมวดน้ำมัน กองทุนรวม ประกัน การเบิกเงินสดซึ่งก็ถือว่าค่อนข้างหลากหลาย แต่ใครที่เติมน้ำมันบ่อย ๆ อาจจะไม่ถูกใจใบนี้มากนัก โดยถ้ารวมการคืนเงินหมวด 15% กับ 1% จะต้องคืนเงินไม่เกิน 2,000 บาท/รอบบัญชี/ผู้ถือบัตรหลัก 1 ราย - ผ่อน 0% นาน 3 เดือน สำหรับหมวดท่องเที่ยวและออนไลน์
ยืดหยุ่นมาก ผ่อนกันแบบไม่มีดอกเบี้ย แต่ถ้าเลือกผ่อน 0% 3 เดือนแล้ว ก็จะไม่ได้รับเงินคืน 1% - ได้รับสิทธิ์ซื้อตั๋วหนัง 1 ฟรี 1 สำหรับเครือโรงภาพยนตร์ SF
เหมาะกับสายบันเทิง คนรักหนัง และคนมีคู่เป็นอย่างมาก 1 ฟรี 1 กันไปเลย สำหรับการซื้อตั๋วหนังเครือโรงหนัง SF โดยมี 1,000 สิทธิ์/เดือน ซึ่งเราสามารถรับสิทธิ์ได้ 1 สิทธิ์ต่อเดือน
จุดที่ควรพิจารณา

เงื่อนไขค่อนข้างมีจำกัด และอัตราคืนเงินระดับ 15% ก็ถูกจำกัดอยู่ที่ 200 บาทต่อรอบบิลเท่านั้น ซึ่งนับว่าค่อนข้างน้อย และกว่าจะเข้าเงื่อนไขก็ต้องใช้ถึง 5 ครั้ง และแต่ละครั้งก็ต้องไม่ต่ำกว่า 300 บาทต่อเซลล์สลิปอีก ทำให้ค่อนข้างวุ่นวายสำหรับผู้ที่ไม่ต้องเงื่อนไขเยอะ แต่สำหรับการคืนเงิน 1% นั้น ค่อนข้างครอบคลุมเกือบทุกมิติการใช้จ่าย ยกเว้นการคืนเงินก็แต่เพียงน้ำมัน กองทุนและประกัน
ส่วนที่ต้องพิจารณาเพิ่มเติม นั่นคือบัตรนี้จะฟรีค่าธรรมเนียมรายปี มูลค่า 2,000 บาท เมื่อเราใช้ครบ 100,000 บาท ดูจากตัวเลข ก็ถือว่าเยอะเอาเรื่องอยู่ แต่ไม่ต้องกลัวไป จากประสบการณ์ผู้ใช้จริงของผู้เขียนเอง ไม่เคยใช้ถึงสักปี แต่ว่าสามารถโทรไปเวฟค่าธรรมเนียมได้ตลอด
คุณสมบัติผู้สมัครบัตรเครดิต UOB YOLO Platinum

- มีรายได้ตั้งแต่ 15,000/เดือน ขึ้นไป
- อายุ 20 ปีขึ้นไป
- สำหรับพนักงานประจำ มีอายุงาน 1 ปีขึ้นไป
คุ้มไหมและเหมาะกับใคร

บัตรนี้ค่อนข้างเหมาะกับผู้ที่มีไลฟ์สไตล์ที่อยู่ในเมือง โดยสารรถไฟฟ้า MRT บ่อย ๆ หรือว่าเน้นช้อปปิ้งร้านความสวยงามอย่างบูสต์ วัตสัน หรือมัตสึโมโตะ คิโยชิ หรือจะเน้นช้อปออนไลน์อย่าง Shopee หรือเดิมทางทางบ่อยเมื่อใช้แกรป และยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการบัตรแคชแบ็คแบบคงที่ ที่ระดับ 1%
เพราะถ้าเทียบกับบัตรเครดิตแบบแต้ม เมื่อไม่มีการคูณแต้ม และเทียบที่ 25 บาท ได้ 1 แต้ม และมูลค่าของแต้ม 1,000 แต้ม = 100 บาท เมื่อคิดตามสูตรอัตราผลตอบแทนจะได้อยู่ที่ 0.4% เท่านั้น ถ้าเทียบกับ UOB YOLO แล้วที่ได้ 1% ก็ค่อนข้างคุ้มเลยทีเดียว
ซึ่งใบนี้ค่อนข้างตอบโจทย์ First Jobber ผู้ที่ทำงานมาใหม่ ๆ และกลุ่มมิลเลนเนียม ต้องการบัตรเครดิตใบแรก ทำงานในเมือง ไม่ต้องการสะสมแต้ม นับว่าเป็นอีกบัตรที่ค่อนข้างคุ้มค่าเลยทีเดียว แต่สำหรับผู้ที่ต้องการเน้นสะสมแต้มเป็นจำนวนมาก ๆ อาจลองมองหาบัตรเครดิต UOB ใบอื่น ก็มีเช่นกัน
ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดตรวจสอบกับผู้ให้บริการอีกครั้ง