ซ่อมหน้าจอแตก รีวิว เปลี่ยนหน้าจอ มือถือ iPhone ต้องบอกก่อนว่ารีวิวนี้ไม่ได้อยากรีวิวเลย เหตุการณ์ที่ทำให้เกิดจอแตกนั่นคือเราเดินอยู่ตรงทางเท้าแถวเอกมัย ควักมือถือ iPhone 11 Pro Max มาจะโทรออกตามปกติ แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดก็เกิดขึ้นจนได้ iPhone ร่วงแบบตกลงไปเลย
ในครั้งแรกใจหายมาทันใด รีบกุลีกุจอหยิบขึ้นมา เมื่อดูพลิกไปพลิกมา ก็สรุปว่าพบเจอรอยแตกทั้งหมด 2 ด้านเลยทีเดียว เริ่มจากด้านหน้ากระจกร้าวโดยเฉพาะมุมด้านล่าง และเป็นรอยแตกยาวไปเลย และเมื่อทัชไปที่บริเวณใกล้รอยแตกก็มีความทัชเพี้ยนบ้าง ส่วนด้านหลังแตกหนักกว่าอีก จุดแตกคือมุมซ้ายล่างเช่นกัน แต่ร้าวยาวลามไปทั้งทั่วกระจกหลังเลย

ต้องบอกก่อนว่ามือถือ iPhone 11 Pro Max ในขณะที่ตก ไม่ได้มีการป้องกันอะไรเลย ไม่ใส่ฟิล์มกันรอย ไม่มีเคสมือถือ ไม่มีฟิล์มไฮโดรเจลรอบเครื่องอะไรทั้งนั้น ทำให้การตกจากการใช้งานธรรมดาเป็นรอยร้าวได้ทั้งหน้าและหลังได้ ดังนั้นแนะนำว่า การใช้งานมือถือ ถ้าอยากให้อยู่กับเราไปนาน ๆ ก็ควรจะใส่เคสมือถือสักหน่อย จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้

ซ่อมหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอ มือถือ iPhone ไอโฟน ใน 1 วัน ที่ Yukifix
รีวิว ซ่อมหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอ มือถือ iPhone ไอโฟน ที่ร้าน Yukifix สาขาบางนา

ที่หาร้านนี้เจอเนื่องจากว่า ลองค้นหาใน Google แล้วโชว์ที่ร้านนี้มาพอดี โดยอยากให้เป็นร้านที่อยู่ใกล้บ้านเรา เพราะจะสะดวกในการรับส่งเครื่อง และอยากได้ร้านที่เป็นร้านรับซ่อมจริง ๆ ไม่ใช่ร้านตู้ลอย ๆ ในห้าง ซึ่งแบบนั้นไม่โอเค
โดยร้านที่รับ ซ่อมหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอมือถือ คือร้าน Yukifix อยู่ที่โครงการ Bizzo บางนา ซอยบางนา 23 ซึ่งถ้าใครจำไม่ได้นั่นคือตรงหลังเซ็นทรัลบางนา (Central Bangna) นั่นเอง ที่โครงการ Bizzo บางนาเป็นคอมมูนนิตี้มอลล์ขนาดเล็ก ส่วนมากเป็นร้านอาหาร แต่ร้าน Yukifix ตั้งโดดเด่นอยู่เลย มีที่จอดรถสะดวกสบาย หาง่าย

ร้าน Yukifix ยูกิฟิกซ์ เป็นร้านที่ไม่ได้ขนาดใหญ่มาก แต่รู้เลยว่าที่นี่มีช่างประจำที่สามารถให้บริการได้จริง ถ้ามองเข้าไปจะเห็นว่ามีอุปกรณ์ที่เราไม่รู้จักมากมาย ไว้สำหรับเปลี่ยนหน้าจอ รวมไปถึงแบตเตอรี่ เลยคิดไว้แล้วว่าเรามาถูกที่แน่นอน
ราคาซ่อมหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอ มือถือ iPhone ไอโฟน เท่าไร

จากนั้นช่างซ่อมได้ประเมินก่อนว่า หน้าจอที่เราแตก แตกขนาดไหน ด้านหน้าหรือด้านหลัง ถ้าแตกด้านหน้ายังทัชได้หรือไม่ หน้าจอยังแสดงผลดีเหมือนเดิมไหม เพราะพวกนี้มีผลต่อราคาค่อนข้างมาก ช่างเล่าว่าถ้าหน้าจอแตกเฉย ๆ แบบผิว ๆ ไม่มีผลจอหน้าจอแสดงผล ทัชปกติ สามารถรับกลับได้เลยใน 3 ชั่วโมงเลยทีเดียว ซึ่งจากการประเมินของมือถือเราเป็นคือ ต้องเปลี่ยน 3 อย่าง กระจกหน้า กระจกหลัง และส่วนที่เป็นทัชสกรีน เพราะมีทัชเพี้ยนบางจุด
- ค่าเปลี่ยนหน้าจอแตกกระจกหน้า 3,500 บาท
- ค่าเปลี่ยนหน้าจอแตกกระจกหลัง 3,500 บาท
- ค่าเปลี่ยนชิ้นส่วนทัชสกรีน 1,000 บาท

รวมทั้งหมด 8,000 บาท ซึ่งผู้ซ่อมแจ้งว่าถ้าหน้าจอเป็นเส้นหรือเสีย ก็จะมีค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มขึ้นอีกตรงส่วนที่เป็นหน้าจอแสดงผล ดีว่าตรงนี้ไม่เป็นอะไร ราคาเลยรวมกันที่ 8,000 บาทเท่านั้น แต่ต้องบอกก่อนว่าราคาแต่ละรุ่นอาจมีความแตกต่างกันได้ และขึ้นอยู่กับอาการของแต่ะเครื่องด้วยว่ารุนแรงแค่ไหน
จะบอกว่าถ้าเข้าร้านที่ได้รับอนุญาตจาก Apple โดยตรง ราคาจะอยู่ที่ 10,300 บาท (ราคาในวันที่ 20 มกราคม 2566) เช็คจากศูนย์บริการแห่งหนึ่ง ซึ่งเมื่อเทียบราคาและความคุ้มค่าแล้ว คิดว่าเปลี่ยนที่ร้าน Yukifix จะดีกว่า เพราะ iPhone 11 Pro Max นั้นถือว่าเก่าแล้ว หมดประกัน ไม่มีการซื้อ Apple Care+ ไว้ (ต่อให้ซื้อไว้ก็หมดแล้วอยู่ดี เพราะนานแล้ว)

ขั้นตอนการส่ง ซ่อมหน้าจอแตก เปลี่ยนหน้าจอ ต้องทำอย่างไรบ้าง

- ให้ช่างประเมินราคา และความเสียหาย
อย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่า ช่างต้องประเมินความเสียหายก่อน ของเราเปลี่ยนหน้าจอกระจกข้างหน้า ข้างหลัง และตัวทัชสกรีน รวมเป็นเงิน 8,000 บาท - ส่งมอบให้ช่างและรองานเสร็จ
การส่งมอบให้ช่างก็จำเป้นต้องให้ Passcode ด้วย สำหรับใครที่กังวลเรื่องความปลอดภัยหรือข้อมูลต่าง ๆ แนะนำให้ทำ Factory Reset ไปก่อน ไม่ต้องล็อกอิน Apple ID แล้วก็รอแค่ให้ช่างซ่อมเสร็จ ซึ่งในกรณีของเคสเรานั้น ส่งซ่อมเวลา 15.00 น. รับเครื่องอีกทีคือ 16.00 น. วัดถัดไป แต่ถ้าใครแค่หน้าจอแตกแบบผิว ๆ อย่างเดียว ช่างแจ้งว่า 3 ชั่วโมงก็เรียบร้อย - รับของจ่ายเงิน และมีประกันหน้าจอให้อีก 1 เดือน
สุดท้ายก็คือการรับของแล้วก็จ่ายเงินเท่านั้น ที่ร้านรับบัตรเครดิตด้วยนะ และที่ร้านมีประกันหน้าจอให้อีกด้วย 1 เดือน แต่ต้องเกิดจาก
ทำไมถึงเลือกซ่อมร้านข้างนอกมากกว่าร้านที่ได้รับอนุญาติจาก Apple โดยตรง

เมื่อเทียบกันแล้ว ซ่อมหน้าจอแตก ร้านข้างนอกคุ้มกว่า แน่นอนว่าพวกหน้าจอหรือกระจกจะไม่ใช่ของแท้ที่ออกมาจากศูนย์ Apple แน่นอน แต่ส่วนตัวคือรับได้ เพราะอายุของไอโฟนรุ่นนี้ก็ผ่านมานานแล้ว ที่อยากซ่อมเพราะอยากให้คนในครอบครัวได้ไว้ใช้ต่อนั่นเอง ไม่ได้เอามาขายต่อแต่อย่างใด และเราก็ไม่ได้มีประกันทุกรูปแบบ ทำให้รู้สึกว่าการประหยัดเงินเพิ่มได้ก็จะดีกว่า
สรุปคือประทับใจมาก ๆ เหมือนชุบชีวิตมือถือใหม่อีกครั้ง ทำให้คิดได้ว่าครั้งหน้าใส่เคสใส่ฟิล์มไว้น่าจะดีกว่า คงช่วยป้องกันได้ ถ้าใครมีปัญหาจอแตก ก็สามารถสอบถามที่ Yukifix ได้โดยตรง ซึ่งเขามีหลายสาขา แต่เรามาเปลี่ยนที่สาขาบางนา คอนเทนต์นี้ไม่ได้มีสปอนเซอร์แต่อย่างใด หน้าจอแตกจริง จ่ายเงินจริง
Yukifix อยู่ที่โครงการ Bizzo บางนา ซอยบางนา 23 ซึ่งตรงหลังเซ็นทรัลบางนานั่นเอง
รวมแล้วอยู่ที่ 8,000 บาท